การดูแลรักษา กระบอกน้ำ

โดยส่วนใหญ่แล้วพฤติกรรมการใช้งานกระบอกน้ำของผู้คนทั่วไป มักจะมีการพกพาไปเพียงแค่อันเดียว และมักจะมีกระบอกน้ำคู่ใจที่มีการติดตัวไปไหนต่อไหนแบบซ้ำ ๆ อันเดิมจนกว่าจะเปลี่ยนซื้อใหม่ ยกเว้นสำหรับผู้ที่มีความจริงจังในการประกอบกิจกรรมในขั้น แอดวานซ์ เช่นเป็นนักกีฬาอาชีพ หรือเป็นนักกิจกรรมที่มีทีมงานคอยจัดเตรียมสิ่งต่าง ๆ ให้ครบครัน แต่ไม่ว่าจะมีกระบอกน้ำกี่กระบอกก็ตาม ก็ย่อมที่จะต้องมีการดูแลรักษาให้ดีอยู่เสมอ
ซึ่งด้วยเหตุนี้สิ่งที่จะต้องตามมานั่นก็คือการดูแลบำรุงรักษา รวมไปถึงการเช็ดล้างทำความสะอาดที่ถูกต้อง เพื่อให้กระบอกน้ำยังคงสภาพที่แข็งแรงมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงมีสุขอนามัยที่ไว้วางใจได้นั่นเอง
โดยวิธีการดูแลรักษากระบอกน้ำนั้นมีดังต่อไปนี้

คำนึงถึงวัสดุที่ใช้ และเก็บวางไว้ในที่ซึ่งมีอุณหภูมิเหมาะสม
สำหรับกระบอกน้ำที่ผลิตขึ้นจากพลาสติก หรือมีชิ้นส่วนใด ๆ ก็ตามที่มีวัสดุไม่ทนต่อแสงแดดที่แรงหรือยาวนานเกินไป ควรหลีกเลี่ยงการตั้งวางไว้ในที่แสงแดดแรงส่องถึง
เพราะแม้ว่าพลาสติกบางชนิดจะมีความทนทานจนไม่รู้สึกว่ามันมีความสึกหรอแต่อย่างใด แต่แท้จริงแล้วมันอาจมีการชำรุดกร่อนหรือผิดรูปเกิดขึ้นสะสมได้ และถึงจุดหนึ่งอาจเกิดการหลุดร่อนโดยที่เกิดขึ้นในรายละเอียดที่เล็กมากอย่างมองไม่ออก ซึ่งสิ่งที่น่ากังวลมากนั่นก็คือ เศษชิ้นส่วนของพลาสติกที่มีขนาดเล็กจิ๋วในระดับไมครอน ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้เมื่อปะปนเข้าไปกับเครื่องดื่มหรือน้ำที่บรรจุอยู่ในกระบอกน้ำพลาสติก
ดังนั้นจึงควรนำกระบอกน้ำตั้งวางไว้ในจุดที่มีอุณหภูมิไม่ร้อนสูงเกินไป ไม่อยู่ในจุดที่แสงแดดแรงส่อง แต่ทั้งนี้หากเป็นกระบอกน้ำที่ได้มาตรฐานการรับรอง หรือเป็น แบรนด์ ที่มีความน่าเชื่อถือไว้วางใจได้ ก็มักจะเป็นกระบอกน้ำที่มีการทดสอบมาแล้วอย่างดีว่าปลอดภัย ไม่เกิดสภาวะอันตรายดังที่กล่าวมาข้างต้น

และแม้ว่ากระบอกน้ำจะเป็นวัสดุโลหะ กระบอกน้ำสแตนเลสหรือแม้แต่เป็นกระบอกน้ำที่กักเก็บความร้อนได้อย่างทนทานก็ตาม แต่สำหรับบางรุ่นการเคลือบสารเคลือบภายนอกจะแตกต่างจากการเคลือบภายใน ทำให้อาจเกิดผลกระทบกับเนื้อผิวภายนอกของกระบอกน้ำได้ โดยเฉพาะอาจเกิดการซีดจางไม่สวยงามดังเดิม

หลีกเลี่ยงการแช่น้ำหรือกระทบกับละอองน้ำ ความชื้น เป็นเวลานาน ๆ
แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็นกระบอกน้ำ แต่คงจะไม่ดีเท่าไหร่หากต้องแช่อยู่ในน้ำเป็นเวลานานโดยเฉพาะหากเป็นน้ำที่ไม่สะอาดหรือในแหล่งน้ำขัง หรือแม้แต่น้ำปกติทั่วไปที่เกิดการขังตัวจนกลายเป็นน้ำเก่า มีการปนเปื้อนจากเศษละอองต่าง ๆ สั่งสม ในกรณีนี้ก็จะส่งผลต่อการหมักหมมของเชื้อแบคทีเรียและเชื้อจุลินทรีย์ต่างๆตลอดจนถึงเชื้อราบางชนิดเกิดขึ้นได้ และสำหรับกระบอกน้ำที่มีผิววัสดุประเภทโลหะ ซึ่งหากไม่มีการเคลือบสารป้องกันที่ดีพอ หรือมีวัสดุอื่น ๆ อยู่ในส่วนตกแต่ง
ก็อาจทำให้ผิวของวัสดุเกิดการสึกกร่อน หรือเป็นสนิมได้

หลีกเลี่ยงการกระทบกระแทกหรือตกหล่น
ไม่ว่ากระบอกน้ำบางรุ่นจะมีการออกแบบให้มีความแข็งแรงคงทน แต่ทุกครั้งที่เกิดการกระทบกระแทก หรือเกิดการตกหล่นแล้วมีความชำรุดเกิดขึ้นในระดับที่เล็ก สังเกตเห็นได้ยาก
นั่นก็จะหมายถึง ความสึกกร่อนที่จะค่อย ๆ ขยายตัวจากรอยกระทบนั้น ซึ่งมีโอกาสจะเกิดขึ้นตามมา และนำมาซึ่งการปนเปื้อน หรือลดประสิทธิภาพในการกักเก็บอุณหภูมิ หรืออาจเกิดการรั่วไหลได้ซึ่งหมายถึงไม่สามารถนำไปใช้งานได้และต้องเปลี่ยนซื้อใหม่เท่านั้น ซึ่งหากกระบอกน้ำของเกิดการตกหล่นอยู่บ่อย ๆ แนะนำให้ใช้กระบอกน้ำชนไม่ล้ม

หมั่นล้างทำความสะอาดอยู่เสมอ
การตรวจสอบสภาพความสะอาดภายในเป็นประจำ ตรวจดูสภาพภายใน มองหาคราบหรือการตกตะกอน ตรวจสอบกลิ่นตกค้าง หรือกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ และมีการล้างหลังใช้งานเสมอ
นั้นเป็นเรื่องที่ควรทำ โดยเฉพาะกระบอกน้ำที่มีลักษณะการดื่มแบบปากสัมผัส หรือมีการบรรจุเครื่องดื่มที่นอกเหนือไปจากน้ำเปล่า ในกรณีนี้ก็นำมาซึ่งการหมักหมมของ แบททีเรีย และเชื้อต่าง ๆ ได้ เว้นแต่จะเป็น กระบอกน้ำ ที่บรรจุน้ำเปล่าที่สะอาดปราศจากตะกอนละอองปนเปื้อน และมีการดื่มแบบเทใส่ภาชนะอื่น ๆ ก็จะใช้การทำความสะอาดที่ไม่จำเป็นต้องทำทุกครั้งหลังใช้งานได้ แต่ก็ควรมีการทำความสะอาดเป็นระยะที่เหมาะสมเช่นกัน