หลักการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยม สำหรับใช้กิจกรรมทางการตลาด กระตุ้นการจดจำแบรนด์แก่กลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่ากระบอกน้ำถือเป็นสินค้าพรีเมี่ยมยอดนิยมชิ้นหนึ่งที่แบรนด์ ห้างร้าน หรือองค์กรต่าง ๆ เลือกใช้งานเป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างการรู้จัก จดจำในแบรนด์แก่ผู้คน กลุ่มลูกค้ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแจกแถม หรือมอบเป็นของรางวัลให้สำหรับลูกค้าที่ร่วมกิจกรรมสำเร็จตามเงื่อนไข กระบอกน้ำนั้นมีหลายรูปแบบมากไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำสแตนเลส และอื่น ๆ เรียกได้ว่ากระบอกน้ำนั้นถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการตลาดขององค์กร แบรนด์ห้างร้านต่าง ๆ ในบ้านเรามาตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระบอกน้ำจะดูเป็นสินค้าธรรมดา ๆ ชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ดี แต่ในความเป็นจริงการออกแบบและผลิตกระบอกน้ำสักใบเพื่อใช้เป็นของพรีเมี่ยมที่สร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดีได้ตามที่คาดหวังนั้น ก็ถือว่ามีรายละเอียดต่าง ๆ ที่ต้องใส่ใจอยู่มากพอสมควร ในบทความนี้จึงได้เลือกนำเอาหลักการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างการจดจำในแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพมาแนะนำให้ได้ทราบกัน
ต้องมีสีประจำแบรนด์/องค์กร เป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ แม้ว่าการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมสำหรับแคมเปญการตลาดต่าง ๆ จะมีธีม หรือคอนเซ็ปต์แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมกับลักษณะกิจกรรม และกลุ่มเป้าหมาย แต่หนึ่งในหลักการออกแบบสำคัญที่หลงลืมไปไม่ได้เลยก็คือ จำเป็นต้องมีสีประจำแบรนด์ หรือองค์กรเป็นส่วนหนึ่งในดีไซน์ตัวสินค้าเพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยกระตุ้นการนึกถึง และจดจำแบรนด์ ซึ่งหากธีม คอนเซ็ปต์การออกแบบหลักจำเป็นต้องใช้โทนสีที่มีความแตกต่างกันกับสีประจำแบรนด์ ก็อาจใช้วิธีใส่สีประจำแบรนด์ลงไปในพื้นที่เล็ก ๆ เช่น ใช้เป็นแถบสีพื้นหลังโลโก้ หรือแถบสีพื้นหลังของข้อความใด ๆ ที่พิมพ์ลงไปบนตัวสินค้า เป็นต้น
ใช้มาสคอตเป็นตัวช่วยสร้างความประทับใจในตัวสินค้า อีกหนึ่งหลักการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมที่สำคัญก็คือ การทำให้สินค้ามีความสวยงาม โดดเด่นแตกต่างไปจากกระบอกน้ำที่มีวางจำหน่ายทั่วไป เพื่อสร้างความประทับใจให้ตัวสินค้าแก่ลูกค้าที่ได้รับสินค้าไป ซึ่งจะตามมาด้วยการจดจำในแบรนด์อัตโนมัติ โดยหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้สินค้าออกมาโดดเด่น ประทับใจลูกค้าที่ได้สินค้าไปก็คือ การใช้มาสคอต หรือสัญลักษณ์ตัวแทนแบรนด์ที่ถูกดีไซน์ออกมาในรูปแบบตัวการ์ตูน หรือรูปสัตว์น่ารัก ๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างความประทับใจนั่นเอง โดยมาสคอตนั้น ๆ ควรต้องมีเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ เช่น สวมเสื้อผ้าที่เป็นสีประจำแบรนด์ หรือมีการสกรีนชื่อแบรนด์ โลโก้แบรนด์
เลือกใช้ขนาดความจุมาตรฐาน อย่างที่ทราบกันว่าของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ นั้นมักถูกแจก มอบไปให้กับกลุ่มลูกค้าแบบไม่เจาะจงเป้าหมาย ในการออกแบบ และผลิตสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นใด ๆ จึงมักต้องคำนึงการเลือกใช้ขนาดมาตรฐานที่เหมาะกับลูกค้า หรือผู้บริโภคส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแคมเปญที่กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้กว้าง ๆ ดังนั้นการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมสักใบ จึงควรเลือกใช้ขนาดความจุมาตรฐาน ไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป โดยอาจเลือกใช้ช่วงความจุระหว่าง 400-500 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นช่วงขนาดความจุกระบอกน้ำที่ผู้บริโภคเลือกใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตามสำหรับแคมเปญการตลาดที่มีการระบุกลุ่มเป้าหมายเจาะจงในวงแคบไว้ชัดเจน ก็อาจเลือกใช้ขนาดความจุที่แตกต่างไปจากขนาดความจุมาตรฐานได้ เช่น กลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็ก กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เหล่านี้อาจเลือกใช้ขนาดความจุในช่วง 330-400 มิลลิลิตร ซึ่งเหมาะกับลักษณะการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายที่เน้นความสะดวกในการพกพามากกว่าหรืออาจจะเปลี่ยนมาใช้แก้วเชคก็ย่อมได้เช่นกันเพราะมีความสะดวกและพกพาได้