อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันแก้วน้ำเก็บความเย็นหรือกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิ ถือเป็นหนึ่งในไอเทมชิ้นสำคัญที่เข้ามาช่วยตอบสนองไลฟ์สไตล์ประจำวันของผู้บริโภคหลายคนมากกว่าแบบกระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิสำหรับใช้บรรจุน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มเมนูโปรดพกพาไว้จิบดื่มได้ตลอดทั้งวัน และโดยทั่วไปแล้วหนึ่งในวิธีเลือกซื้อเลือกหากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิที่ผู้บริโภคหลายคนใช้กันก็คือ การเลือกกระบอกที่เป็นระบบสุญญากาศนั่นเอง เพราะนวัตกรรมการผลิตแบบสุญญากาศนั้นเป็นที่ยอมรับกันว่าช่วยทำให้บรรจุภัณฑ์นั้น ๆ สามารถคงอุณหภูมิของเครื่องดื่มที่บรรจุไว้ได้นานยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตามในการใช้งานจริงแม้ว่าสินค้าจากหลาย ๆ แบรนด์จะถูกพรีเซนต์ว่าเป็นระบบสุญญากาศเหมือนกัน แต่ประสิทธิภาพการคงอุณหภูมิเครื่องดื่มที่บรรจุลงไปก็อาจแตกต่างกันออกไปตามคุณภาพการผลิต ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของความความหนาบางของวัสดุที่ใช้ทำตัวกระบอกน้ำ เกรดวัสดุ หรือแม้กระทั่งตัวระบบสุญญากาศเองที่บางผู้ผลิตอาจทำได้ไม่ดีตามมาตรฐาน หรือเกิดข้อผิดพลาดใดๆระหว่างการผลิตจนทำให้ระบบสุญญากาศไม่สามารถใช้งานได้จริง ในบทความนี้จึงได้เลือกคัดเอาแบรนด์กระบอกน้ำสุญญากาศคุณภาพดี ที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในบ้านเราในปี 2023 มาแนะนำให้หลายคนได้ทราบ และใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อเลือกหากระบอกน้ำสุญญากาศสักใบมาใช้งาน
Hydro Flask แบรนด์แรกที่ต้องยกให้เป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างมาแรง ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคจำนวนมากในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2023 ก็คือ ไฮโดรเฟล็กซ์ แบรนด์สัญชาติอเมริกัน ซึ่งมีผลิตภัณฑ์กระบอกน้ำสุญญากาศให้เลือกช้อปอยู่หลายรุ่นด้วยกัน และมีจุดเด่นเรื่องของดีไซน์ที่สวยงามทันสมัย อีกทั้งยังมีฟังก์ชั่นดีไซน์ที่ช่วยให้ผู้บริโภคใช้งานกระบอกน้ำได้อย่างสะดวกขึ้นอย่างหูหิ้วที่ติดมากับฝากระบอกในตัว โดยราคาจำหน่ายกระบอกน้ำสุญญากาศแบรนด์ไฮโดรเฟล็กซ์มีตั้งแต่ประมาณ 1,500 บาทขึ้น ขึ้นอยู่กับรุ่น และขนาดความจุ
Xiaomi แบรนด์ต่อมาต้องบอกว่าเป็นแบรนด์ที่หลายคนน่าจะคุ้นชื่อกันเป็นอย่างดี แต่ขณะเดียวกันก็คงไม่คุ้นเคยกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์ หรือกระบอกน้ำสักเท่าไหร่ ซึ่งแบรนด์นั้นก็คือ เสี่ยวหมี่นั่นเอง ทั้งนี้เสี่ยวหมี่ถือเป็นแบรนด์ผู้ผลิตสินค้าแก็ดเจ็ตไอทีเจ้าดังที่มีการผลิตสินค้าใช้งานทั่วไปในกลุ่มอื่น ๆ หลากหลายประเภทออกมาวางจำหน่ายด้วยเช่นกัน และกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิก็ถือเป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ของแบรนด์สัญชาติจีนรายนี้ที่มีวางจำหน่ายในปี 2023 และได้รับกระแสตอบรับจากผู้บริโภคที่ประทับใจในมาตรฐานการผลิตของแบรนด์ค่อนข้างดี โดยกระบอกน้ำสุญญากาศที่ทางเสี่ยวหมี่ทำออกมาวางจำหน่ายก็มีอย่างในรุ่น Xiaomi Mijia Vacuum Bottle ที่วางจำหน่ายในราคาประมาณ 1,000 บาท
Zojirushi อีกหนึ่งแบรนด์ที่ต้องยกให้เป็นแบรนด์กระบอกน้ำสุญญากาศที่รักษาความคงเส้นคงวาไว้ได้ดีที่สุดทั้งในแง่ของคุณภาพ และกระแสความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคก็คือ โซจิรูชิ แบรนด์กระบอกน้ำเจ้าดังสัญชาติญี่ปุ่นนั่นเอง ทั้งนี้โซจิรูชิถือเป็นแบรนด์เก่าแก่ที่มีความชำนาญในการผลิตบรรจุภัณฑ์ระบบสุญญากาศ โดยกระบอกน้ำสุญญากาศหลาย ๆ รุ่นของแบรนด์ได้รับคำชื่นชมจากผู้บริโภคมาตลอดหลายสิบปี เช่นเดียวกับในปี 2023 ก็ยังถือเป็นแบรนด์ตัวเลือกต้น ๆ ของผู้บริโภคที่ถูกแนะนำบอกต่อมากที่สุด โดยกระบอกน้ำสุญญากาศโซจิรูชิที่มีวางจำหน่ายในปี 2023 นี้ก็มีตั้งแต่ราคา 1,000 บาทขึ้นไปจนถึง 2,000+ บาท ขึ้นอยู่กับรุ่น ขนาดความจุ ดีไซน์ สำหรับรุ่นแนะนำก็มีอย่างรุ่น Zojisushi Direct Drink กระบอกน้ำสเตนเลสเกรดคุณภาพ ขนาดความจุ 480 มิลลิลิตร ที่เลือกใช้สีชมพูแบบ Rose Gold เป็นสีหลักของตัวกระบอกให้ความรู้สึกสวยเรียบ แต่โดดเด่นกว่าผลิตภัณฑ์หลาย ๆ รุ่นของแบรนด์

ในการเลือกซื้อเลือกหากระบอกน้ำสักใบไว้ใช้งานสำหรับบรรจุน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มเมนูโปรดไว้จิบดื่มระหว่างวันนั้น โดยทั่วไปแล้วผู้บริโภคหลายคนมักจะมีความเข้าใจพื้นฐานว่าเราสามารถแบ่งประเภทของกระบอกน้ำได้ออกเป็นสองประเภทตามวัสดุที่ใช้ผลิต คือ กระบอกน้ำพลาสติก ซึ่งใช้สำหรับบรรจุเครื่องดื่มทั่วไป ไม่มีคุณสมบัติในการเก็บรักษาอุณหภูมิ และกระบอกน้ำวัสดุโลหะ ที่มีคุณสมบัติคงอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้เหมือนกับแก้วน้ำเก็บความเย็นที่สามารถบรรจุเครื่องดื่มได้ทั้งร้อน และเย็น ซึ่งก็ถือว่าเป็นความเข้าใจเบื้องต้นที่ถูกต้องแล้ว แต่ทว่าที่จริงแล้วเรายังสามารถแบ่งแยกย่อยประเภทของวัสดุได้มากกว่านั้น โดยเฉพาะวัสดุโลหะ ซึ่งมีวัสดุที่มีคุณสมบัติต่างกันอยู่ 2 ชนิดหลัก ๆ ที่สามารถนำมาใช้ผลิตกระบอกน้ำดีไซน์ต่าง ๆ ได้เหมือนกัน ซึ่งก็คือ สแตนเลส และอลูมิเนียม ในบทความนี้จึงจะมาเปรียบเทียบคุณสมบัติ และข้อดี ข้อเสียของวัสดุทั้งสองแบบให้ได้ทราบกันว่าที่จริงแล้ววัสดุแบบไหนปลอดภัย และน่าใช้กว่ากัน
สแตนเลสมีความแข็งแรงทนทาน และมีน้ำหนักมากกว่าอลูมิเนียม ความแตกต่างประการแรกที่ชัดเจนของโลหะทั้งสองชนิดก็คือ ความแข็งแรงทนทาน และน้ำหนัก โดยสแตนเลสนั้นมีความแข็งแรงทนทานกว่า มีน้ำหนักมากกว่า ในอุตสาหกรรมการผลิตต่าง ๆ จึงนิยมใช้วัสดุทั้งสองแบบควบคู่กันไป ขึ้นอยู่กับว่าผู้ผลิตต้องการใช้คุณสมบัติใดของวัสดุ โดยหากต้องการสินค้าที่มีน้ำหนักเบา ขึ้นรูปทรงต่าง ๆ ได้ง่ายก็อาจเลือกใช้อลูมิเนียม แต่หากต้องการสินค้าที่มีความแข็งแรงทนทานก็อาจเลือกใช้สแตนเลส เช่นเดียวกับสินค้าอย่างกระบอกน้ำที่แบรนด์ผู้ผลิตเจ้าต่าง ๆ มีการเลือกใช้ทั้งอลูมิเนียม และสแตนเลส ดังนั้นจึงสรุปข้อดีข้อเสียของกระบอกน้ำสแตนเลส และอลูมิเนียมเบื้องต้นได้ว่า กระบอกน้ำสแตนเลสมีความแข็งแรงทนทานกว่า แต่ก็มีน้ำหนักค่อนข้างมาก ขณะที่กระบอกอลูมิเนียมมีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก แต่ก็เสี่ยงชำรุด บุบเบี้ยวจากการตกหล่นได้ง่าย
ความปลอดภัย การปนเปื้อนสารต่าง ๆ จากวัสดุ มาที่ปัจจัยที่ถือว่าค่อนข้างมีความละเอียดอ่อนต่อผู้บริโภคที่ใส่ใจในการดูแลสุขภาพกันบ้าง ซึ่งก็คือในส่วนของความปลอดภัยในการใช้งาน ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว วัสดุสแตนเลสนั้นถูกยกให้เป็นโลหะที่มีความปลอดภัยในการใช้งานกับอาหาร เครื่องดื่ม มีอัตราการปนเปื้อนสารอันตรายต่าง ๆ น้อย ทานต่อกรดได้ดี ขณะที่อลูมิเนียมบริสุทธิ์นั้นต้านทานกรดได้ไม่ดี จึงเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสารที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้หากใช้บรรจุเครื่องดื่มบางชนิด อย่างไรก็ตามปัจจุบันการใช้อลูมิเนียมในการผลิตกระบอกน้ำ หรือภาชนะใด ๆ ผู้ผลิตได้มีการใช้นวัตกรรมการผลิตต่าง ๆ เข้ามาช่วยลดอัตราการปนเปื้อนขณะบริโภค เช่น การเคลือบทับด้วยพลาสติก หรือการนำอลูมิเนียมไปผ่านกระบวนการชะล้างต่าง ๆ ที่ทำให้ได้อลูมิเนียมที่ปลอดสารปนเปื้อนอันเป็นอันตรายต่อร่างกายก่อนนำมาผลิต เป็นต้น ดังนั้นในแง่ของความปลอดภัยจึงสรุปได้ว่า หากเป็นวัสดุสแตนเลส และอลูมิเนียมเกรดดั้งเดิม สแตนเลสถือว่ามีความปลอดภัย และใช้บรรจุเครื่องดื่มได้หลากหลายประเภทกว่า สำหรับผู้บริโภคที่สนใจเลือกซื้อกระบอกน้ำอลูมิเนียมมาใช้งาน จึงอาจต้องระมัดระวังในการเลือกสินค้าที่มีราคาถูก เพราะผู้ผลิตอาจจะไม่ได้เลือกใช้อลูมิเนียมฟู้ดเกรด หรืออลูมิเนียมที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการที่ช่วยป้องกันการปนเปื้อนได้ดีขึ้น
พื้นผิววัสดุ อีกหนึ่งความแตกต่างที่สังเกตเห็นได้ชัดเจน และค่อนข้างมีผลต่อความสวยงามของดีไซน์ภายนอกของกระบอกน้ำก็คือลักษณะของพื้นผิวนั่นเอง โดยวัสดุสแตนเลสจะมีความมันวาวในตัว ธรรมชาติสีของโลหะจะเป็นโทนเข้ม(ดำ) ขณะที่อลูมิเนียมพื้นผิวจะออกด้าน สีธรรมชาติจะเป็นโทนสว่าง(ขาว) ดังนั้นถ้าชอบดีไซน์พื้นผิวแบบมันวาวก็อาจเลือกใช้กระบอกน้ำสแตนเลส แต่หากชอบพื้นผิวด้าน การมองหากระบอกน้ำที่ทำจากวัสดุอลูมิเนียมก็อาจจะทำให้ได้ใบที่มีดีไซน์สวยถูกใจกว่า

วัสดุที่นิยมนำมาใช้ในการผลิตกระบอกน้ำนั้น จะมีด้วยกันอยู่ 2 ประเภทคือสแตนเลสและอลูมิเนียมแต่นอกจากนี้ก็จะมีกระบอกน้ำพลาสติกที่จะนิยมด้วยเช่นกัน กระบอกน้ำที่ทำจากวัสดุทั้งสองชนิดนี้ก็จะมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไป การมีกระบอกน้ำ มีข้อดีหลายอย่างที่ช่วยให้การดื่มน้ำสะดวกสบายและเป็นประโยชน์มากมาย ทั้งสะดวกในการใช้งานการมีกระบอกน้ำทำให้เราสามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียว นอกจากนี้กระบอกน้ำบางรุ่นสามารถเก็บอุณหภูมิน้ำได้เหมือนกับแก้วน้ำเก็บความเย็น ทำให้สามารถใช้น้ำร้อนหรือน้ำเย็นตามความต้องการได้ กระบอกน้ำมีหลากหลายสไตล์และออกแบบที่สวยงาม สามารถเลือกใช้กระบอกน้ำที่เข้ากับสไตล์ตนเองได้ แต่ก็ยังมีข้อเสียอยู่ ดังนั้นเราจะมากล่าวถึงข้อดี – ข้อเสียของกระบอกน้ำสแตนเลสกับกระบอกน้ำอลูมิเนียม เพื่อเป็นการตัดสินใจในการเลือกซื้อ ดังนี้
ข้อดีของกระบอกน้ำสแตนเลส
มีความทนทาน สแตนเลสมีความคงทนต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความทนทานต่อการกัดกร่อนการเกิดสนิม ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
กระบอกน้ำสแตนเลสสามารถที่จะนำกลับมาใช้ซ้ำได้ค่อนข้างปลอดภัย โดยตอบโจทย์ในเรื่องของการนำกลับมาใช้ซ้ำได้ดีกว่ากระบอกแบบอลูมิเนียม
วัสดุสแตนเลสนั้นเป็นวัสดุไร้สารเคมี จึงไม่จำเป็นต้องใช้แผ่นซับหรือพลาสติกมาห่อหุ้มไว้อีกชั้น
สามารถทนต่อความร้อนได้มากกว่าอลูมิเนียม
สแตนเลสยังเป็นวัสดุที่มีความเป็นกลางคือไม่เกิดปฏิกิริยาเรื่อง กลิ่นหรือรสชาติ เครื่องดื่มที่แปลก
ข้อเสียของกระบอกน้ำสแตนเลส
น้ำหนัก สแตนเลสมีน้ำหนักมากกว่าอลูมิเนียม ทำให้กระบอกน้ำที่ทำจากสแตนเลสมีน้ำหนักมากขึ้น
ราคา สแตนเลสมีราคาสูงกว่าอลูมิเนียม
การใช้กระบอกน้ำสแตนเลส อาจทำให้เกิดรอยขีดข่วนบริเวณรอบ ๆ กระบอกน้ำของเราได้ หากมีการตกหล่นหรือกระแทกอะไรที่มีความแข็ง
กระบอกน้ำสแตนเลสจะหุ้มด้วยฉนวน ซึ่งฉนวนเหล่านั้นก็ยังคงมีระดับของตะกั่วที่มากสำหรับผู้ผลิตบางราย

ข้อดีของกระบอกน้ำอลูมิเนียม
กระบอกน้ำอลูมิเนียมมีน้ำหนักเบากว่าสแตนเลส
อลูมิเนียมเป็นวัสดุที่สามารถสร้างรูปทรงและออกแบบได้ง่าย ทำให้กระบอกน้ำที่ทำจากอลูมิเนียมมีลักษณะรูปร่างที่สวยงาม ทันสมัย
เกิดร้อยขีดข่วนยากเมื่อเทียบกับกระบอกน้ำสแตนเลส
ข้อเสียของกระบอกน้ำอลูมิเนียม
อลูมิเนียมมีความเกิดสนิมได้มากกว่าสแตนเลส อาจจะเกิดความเสียหายได้ง่าย
อลูมิเนียมยังทนความร้อนไม่ได้เท่ากับสแตนเลส
ไม่สามารถเก็บอุณหภูมิได้
การเลือกใช้วัสดุของกระบอกน้ำที่เหมาะสมที่สุดจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานและสภาพแวดล้อมที่จะนำไปใช้งาน ถ้าหากเป็นกระบอกน้ำในสถานที่ที่ต้องการความปลอดภัย ควรพิจารณาใช้กระบอกน้ำทำจากสแตนเลส เนื่องจากมีความทนทาน ในขณะเดียวกันถ้าหากต้องการกระบอกน้ำเบาและสไตล์ที่ทันสมัย สามารถเลือกใช้กระบอกน้ำทำจากอลูมิเนียมได้
การดูแลรักษากระบอกน้ำสแตนเลสและอลูมิเนียมจำเป็นต้องทำความสะอาดและดูแลให้เหมาะสมเพื่อให้ยืนอยู่ได้นานและใช้งานได้ดีตามความเหมาะสมของแต่ละวัสดุ ดังนั้นเราจึงมาบอกวิธีการดูแลรักษากระบอกน้ำทำจากสแตนเลสและอลูมิเนียม

วิธีการดูแลรักษากระบอกน้ำทำจากสแตนเลสและอลูมิเนียม
การทำความสะอาดใช้ผ้าที่ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีทำความสะอาดบ่อย ๆ โดยใช้น้ำน้ำยาล้างจานผสมน้ำ เพื่อล้างความสกปรกในผิวของกระบอกน้ำ
การไม่ให้สารเคมีสัมผัสกับกระบอกน้ำควรหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่มีส่วนผสมของกรดและคลอไรด์ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายและสกปรกบนผิวกระบอกน้ำ
เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้วให้เช็ดแห้งทันทีเพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำหยด
การใช้น้ำอุ่น หากกระบอกน้ำทำจากอลูมิเนียมสามารถใช้น้ำอุ่นได้ แต่ควรเปิดกระบอกน้ำให้น้อยที่สุดเมื่อไม่ใช้งาน เนื่องจากน้ำอุ่นอาจทำให้กระบอกน้ำร้อนมากขึ้น

แม้กระทั่งในปัจจุบันเอง กระบอกน้ำก็ยังคงถือเป็นของพรีเมี่ยมยอดนิยม ที่ถูกหยิบยกมาใช้ในกิจกรรมทางการตลาดของแบรนด์และบริษัทต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก แบบที่เป็นกระบอกน้ำสแตนเลสที่สามารถเก็บความเย็นได้ และอีกหลากหลายรูปแบบด้วยกัน แต่ละแบรนด์ก็ใช้กระบอกน้ำซึ่งเป็นของพรีเมี่ยม ในบริบทที่แตกต่างกันออกไป บ้างก็ใช้แลกของรางวัล บ้างก็ใช้แจกเป็นของสมนาคุณเลย ดังนั้นด้วยเหตุนี้ เราจึงอาจกล่าวได้ว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้นับว่าเป็นอุปกรณ์ที่มีความสำคัญต่อวงการของพรีเมี่ยมเป็นอย่างมาก

กระบอกน้ำที่เราหยิบยกมาใช้งานนั้น มันมีอยู่ด้วยกันกี่รูปแบบ มีดีไซน์และรูปแบบเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร และวันนี้เราจะมานำเสนอรูปแบบของกระบอกน้ำยอดนิยมในปี 2023 จะมีแบบไหนและน่าสนใจอย่างไรบ้างไปดูกันเลย

ทรงกระบอกแบบคลาสสิก

ดีไซน์แบบแรกที่เราอยากหยิบยกมานำเสนอ คือกระบอกน้ำรูปแบบที่เราสามารถพบเห็นได้บ่อยมากที่สุด เพราะถูกนำมาจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมบ่อยมากที่สุด นั่นคือดีไซน์ที่เป็นรูปทรงกระบอกแบบคลาสสิกทั่วไป หรือทรงกระบอกแบบรอบวงจะมีความแคบ ไม่ได้มีส่วนเว้าโค้งอื่นใดนอกเหนือจากนี้ ข้อดีที่สำคัญของทรงกระบอกแบบดั้งเดิม คือจะมีขนาดที่มีความกะทัดรัด พกพาไปไหนมาไหนได้สะดวกสบายมากกว่า สำหรับการเป็นของพรีเมี่ยมดีไซน์รูปนี้เป็นอะไรที่เหมาะมาก วัสดุที่นำมาใช้มีหลากหลายทั้งสแตนเลส หรือที่ยอดนิยมเลยคือพลาสติก ดังนั้นการผลิตออกมาใช้งานจึงค่อนข้างมีความยืดหยุ่นสูง

ทรงสปอร์ต

นี่ก็เป็นกระบอกน้ำอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมมากเลยทีเดียว นั่นคือส่งที่เราจะเรียกกันว่าส่งสปอร์ต สำหรับสายออกกำลังกายและสายเฮลตี้ วัสดุที่ใช้จะเน้นไปที่การใช้พลาสติก เพื่อให้ความรู้สึกมีความคล่องตัวสูง เหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการพกพาเครื่องดื่มไว้ดื่มในขณะขณะออกกำลังกาย ข้อดีคือสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่รักสุขภาพได้มากกว่า หรือเข้าถึงผู้คนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายได้มากกว่า อยู่ที่ทางแบรนด์จะเลือกใช้

รูปแบบสแตนเลส

กระบอกน้ำรูปแบบสแตนเลสก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบ ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันเอง และเปรียบเสมือนหนึ่งในดีไซน์มาตรฐานของสินค้าชิ้นนี้เลยก็ว่าได้ แน่นอนว่ารูปแบบสแตนเลสวัสดุที่ใช้ในการทำจะเป็นสแตนเลส ส่วนมากจะออกแบบมาให้บริเวณฐานกระบอกแคบ และบริเวณตัวกระบอกจะมีความกว้างกว่า ทั้งนี้ก็เพื่อให้สะดวกต่อการตั้งวางในพื้นที่ต่างๆ ข้อดีที่เห็นได้อย่างเด่นชัดคือ มีความสะดวกสบายในการใช้งานสูง และการที่เป็นสแตนเลสสามารถกักเก็บอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ดังนั้นจึงนิยมใส่เครื่องดื่มเย็นสำหรับเอาไว้จิบระหว่างวัน เป็นดีไซน์ที่ถูกใจหนุ่มสาว รวมถึงผู้คนทุกเพศทุกวัยเลย แต่ข้อเสียก็มีเหมือนกัน คือส่วนมากมักจะมีความใหญ่และน้ำหนักมากกว่า บวกกับหากจะทำเป็นของพรีเมี่ยม ต้นทุนการผลิตก็จะสูงกว่าตามไปด้วยและยังมีแก้วน้ำเก็บความเย็นในรูปแบบสแตนเลสด้วย

รูปแบบฝาหูหิ้ว

และแบบสุดท้ายที่เราอยากจะหยิบยกมานำเสนอ คือรูปแบบฝาหูหิ้ว โดยลักษณะคือ จะเป็นรูปทรงกระบอกคล้ายกับรูปแบบมาตรฐานทั่วไป แต่ที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดคือบริเวณฝาปิด ซึ่งจะถูกออกแบบมาพร้อมกับการมีหูหิ้วมาด้วย นั่นทำให้สามารถใช้งาน และพกพาอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวกสบายมากกว่า โดยที่อาจไม่จำเป็นต้องสวมใส่กระเป๋าอะไร บางครั้งอาจทำหูหิ้วแบบเชือกมาเพื่อคล้องตัวกระบอก นี้ก็เป็นอีกหนึ่งรูปแบบยอดนิยมในท้องตลาด เป็นรูปแบบที่สามารถพบเห็นได้บ่อยบ่อย โดยเฉพาะกับการนำไปทำเป็นของพรีเมี่ยม ข้อดีคือพกพาได้ง่ายดาย ส่วนมากวัสดุที่ใช้ทำจะเป็นพลาสติก เนื่องจากมีราคาไม่แพงมากนักและสามารถที่จะนำมาผลิตได้ครั้งละมากๆ ดังนั้นรูปแบบนี้จึงถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ

เป็นที่ทราบดีอยู่แล้วว่ากระบอกน้ำถือเป็นสินค้าพรีเมี่ยมยอดนิยมชิ้นหนึ่งที่แบรนด์ ห้างร้าน หรือองค์กรต่าง ๆ เลือกใช้งานเป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างการรู้จัก จดจำในแบรนด์แก่ผู้คน กลุ่มลูกค้ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการแจกแถม หรือมอบเป็นของรางวัลให้สำหรับลูกค้าที่ร่วมกิจกรรมสำเร็จตามเงื่อนไข กระบอกน้ำนั้นมีหลายรูปแบบมากไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำสแตนเลส และอื่น ๆ เรียกได้ว่ากระบอกน้ำนั้นถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนการตลาดขององค์กร แบรนด์ห้างร้านต่าง ๆ ในบ้านเรามาตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามแม้ว่ากระบอกน้ำจะดูเป็นสินค้าธรรมดา ๆ ชิ้นหนึ่ง ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่ดี แต่ในความเป็นจริงการออกแบบและผลิตกระบอกน้ำสักใบเพื่อใช้เป็นของพรีเมี่ยมที่สร้างผลลัพธ์ทางการตลาดที่ดีได้ตามที่คาดหวังนั้น ก็ถือว่ามีรายละเอียดต่าง ๆ ที่ต้องใส่ใจอยู่มากพอสมควร ในบทความนี้จึงได้เลือกนำเอาหลักการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อสร้างการจดจำในแบรนด์อย่างมีประสิทธิภาพมาแนะนำให้ได้ทราบกัน
ต้องมีสีประจำแบรนด์/องค์กร เป็นส่วนหนึ่งของดีไซน์ แม้ว่าการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมสำหรับแคมเปญการตลาดต่าง ๆ จะมีธีม หรือคอนเซ็ปต์แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสมกับลักษณะกิจกรรม และกลุ่มเป้าหมาย แต่หนึ่งในหลักการออกแบบสำคัญที่หลงลืมไปไม่ได้เลยก็คือ จำเป็นต้องมีสีประจำแบรนด์ หรือองค์กรเป็นส่วนหนึ่งในดีไซน์ตัวสินค้าเพื่อเป็นหนึ่งในตัวช่วยกระตุ้นการนึกถึง และจดจำแบรนด์ ซึ่งหากธีม คอนเซ็ปต์การออกแบบหลักจำเป็นต้องใช้โทนสีที่มีความแตกต่างกันกับสีประจำแบรนด์ ก็อาจใช้วิธีใส่สีประจำแบรนด์ลงไปในพื้นที่เล็ก ๆ เช่น ใช้เป็นแถบสีพื้นหลังโลโก้ หรือแถบสีพื้นหลังของข้อความใด ๆ ที่พิมพ์ลงไปบนตัวสินค้า เป็นต้น
ใช้มาสคอตเป็นตัวช่วยสร้างความประทับใจในตัวสินค้า อีกหนึ่งหลักการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมที่สำคัญก็คือ การทำให้สินค้ามีความสวยงาม โดดเด่นแตกต่างไปจากกระบอกน้ำที่มีวางจำหน่ายทั่วไป เพื่อสร้างความประทับใจให้ตัวสินค้าแก่ลูกค้าที่ได้รับสินค้าไป ซึ่งจะตามมาด้วยการจดจำในแบรนด์อัตโนมัติ โดยหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะทำให้สินค้าออกมาโดดเด่น ประทับใจลูกค้าที่ได้สินค้าไปก็คือ การใช้มาสคอต หรือสัญลักษณ์ตัวแทนแบรนด์ที่ถูกดีไซน์ออกมาในรูปแบบตัวการ์ตูน หรือรูปสัตว์น่ารัก ๆ เข้ามาเป็นตัวช่วยสร้างความประทับใจนั่นเอง โดยมาสคอตนั้น ๆ ควรต้องมีเอกลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับแบรนด์ได้ เช่น สวมเสื้อผ้าที่เป็นสีประจำแบรนด์ หรือมีการสกรีนชื่อแบรนด์ โลโก้แบรนด์
เลือกใช้ขนาดความจุมาตรฐาน อย่างที่ทราบกันว่าของพรีเมี่ยมในกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ นั้นมักถูกแจก มอบไปให้กับกลุ่มลูกค้าแบบไม่เจาะจงเป้าหมาย ในการออกแบบ และผลิตสินค้าพรีเมี่ยมชิ้นใด ๆ จึงมักต้องคำนึงการเลือกใช้ขนาดมาตรฐานที่เหมาะกับลูกค้า หรือผู้บริโภคส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแคมเปญที่กำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายไว้กว้าง ๆ ดังนั้นการออกแบบกระบอกน้ำพรีเมี่ยมสักใบ จึงควรเลือกใช้ขนาดความจุมาตรฐาน ไม่เล็ก หรือใหญ่เกินไป โดยอาจเลือกใช้ช่วงความจุระหว่าง 400-500 มิลลิลิตร ซึ่งเป็นช่วงขนาดความจุกระบอกน้ำที่ผู้บริโภคเลือกใช้มากที่สุด อย่างไรก็ตามสำหรับแคมเปญการตลาดที่มีการระบุกลุ่มเป้าหมายเจาะจงในวงแคบไว้ชัดเจน ก็อาจเลือกใช้ขนาดความจุที่แตกต่างไปจากขนาดความจุมาตรฐานได้ เช่น กลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็ก กลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบการออกกำลังกาย เหล่านี้อาจเลือกใช้ขนาดความจุในช่วง 330-400 มิลลิลิตร ซึ่งเหมาะกับลักษณะการใช้งานของกลุ่มเป้าหมายที่เน้นความสะดวกในการพกพามากกว่าหรืออาจจะเปลี่ยนมาใช้แก้วเชคก็ย่อมได้เช่นกันเพราะมีความสะดวกและพกพาได้

เมื่อพูดถึงแบรนด์กระบอกน้ำในไทยก็มีมากมายหลากหลายแบบไม่ว่าจะเป็น กระบอกน้ำสแตนเลส กระบอกน้ำพลาสติก แต่ที่ได้รับความนิยมเลือกใช้งานในหมู่ผู้บริโภคในบ้านเรา ก็แน่นอนว่าหนึ่งในแบรนด์ที่มาแรงมากที่สุดในปัจจุบันก็คือ LocknLock แบรนด์ผู้ผลิตกระบอกน้ำที่มีจุดเด่นเรื่องดีไซน์ ซึ่งสามารถทำสินค้าหลาย ๆ รุ่นออกมาได้สวยเรียบเป็นเอกลักษณ์ตามแบบฉบับมินิมอลและมีความร่วมสมัยในเวลาเดียวกัน จนกลายเป็นแบรนด์ขวัญใจผู้บริโภคยุคใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามอย่างที่ทราบกันว่าเอกลักษณ์ดีไซน์ของล็อคแอนด์ล็อคนั้นเป็นแบบมินิมอล สินค้าหลาย ๆรุ่นจึงมักจะเลือกใช้สีพื้น ๆ เฉดสีไม่สดใส เช่น ขาว เทา น้ำตาล น้ำเงิน เพื่อสื่อถึงความสวยงามแบบเรียบง่าย ซึ่งอาจจะไม่โดนใจผู้บริโภคบางส่วนที่ชื่นชอบการใช้งานผลิตภัณฑ์เฉดสีสดใส และนั่นก็ทำให้ทางแบรนด์เลือกดีไซน์สินค้าบางรุ่น บางซีรีส์ให้ออกมามีเฉดสีสดใส มีตัวเลือกสีมากขึ้น โดยที่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นมินิมอลไว้ด้วยการใช้โทนสีพาสเทลเข้ามาผสาน และในบทความนี้เองก็ได้คัดเอารุ่นกระบอกน้ำของ LocknLock ที่เป็นโทนสีพาสเทล เฉดสีสดใสต่าง ๆ มาแนะนำให้ผู้บริโภคยุคใหม่ที่ชื่นชอบผลิภัณฑ์ที่มีสีสันมากกว่าผลิตภัณฑ์สีพื้นเรียบ ๆ ได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกส่องเลือกหาสินค้ากัน
LocknLock ID Macaroon Tumbler กระบอกน้ำโทนสีพาสเทลตัวแรกที่เลือกมาแนะนำกันเป็นกระบอกน้ำเก็บความเย็นหรือแก้วน้ำเก็บความเย็น ซีรีส์ ID Tumbler ในชื่อรุ่นย่อย ID Macaroon Tumbler ซึ่งเป็นกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิความจุ 450 มิลลิลิตร ดีไซน์สวยเรียบตามแบบฉบับของล็อคแอนด์ล็อค ตัวฐานกว้าง และมีส่วนเว้าเข้าเล็กน้อยช่วงรอยต่อระหว่างปากกระบอกกับฝากระบอก มีให้เลือกถึง 5 เฉดสีด้วยกัน ประกอบด้วย เทาพาสเทล ขาว(ครีม) ชมพูพาสเทล เขียว(มิ้นท์)พาสเทล และฟ้าพาสเทล ส่วนฝากระบอกมีสีเดียวคือ สีน้ำตาล ราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 500 บาท
LocknLock Dandy One Touch Tumbler กระบอกน้ำโทนสีพาสเทลตัวแนะนำต่อมาจากล็อคแอนด์ล็อคเป็นในชื่อรุ่น Dandy One Touch กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิขนาดความจุ 420 มิลลิลิตร ที่สามารถเปิดฝาใช้งานได้อย่างสะดวกด้วยการกดเพียงครั้งเดียวตามชื่อรุ่น โดยดีไซน์ของรุ่นนี้เป็นรูปทรงกระบอกแบบคลาสสิค ไม่มีส่วนโค้งเว้าใด ๆ มีสีสันให้เลือกด้วยกัน 4 สี ประกอบด้วย สีขาว สีฟ้าพาสเทล ชมพูพาสเทล และสีกรม (ฝากระบอกเป็นสีเดียวกับตัวกระบอก) ราคาจำหน่ายอยู่ที่ประมาณ 520 บาท
LocknLock Sling Ring Tumbler อีกหนึ่งกระบอกน้ำสีพาสเทลที่ถือว่าเป็นตัวไฮไลท์ของล็อคแอนด์ล็อคและน่าจะตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคยุคใหม่ได้ดีก็คือ กระบอกน้ำแบบมาพร้อมหูหิ้วในชื่อรุ่น Sling Ring Tumbler ที่มีขนาดความจุถึง 650 มิลลิลิตร ดีไซน์ภายนอกเป็นรูปทรงกระบอกมาตรฐาน สวยเรียบตามแบบฉบับมินิมอล ไร้ลวดลายและส่วนโค้งเว้าใด ๆ มีเพียงการสกรีนชื่อแบรนด์ LocknLock ที่บริเวณฐานกระบอกเช่นเดียวกับรุ่นอื่น ๆ และลูกเล่นเล็ก ๆ ที่ขอบรอยต่อระหว่างตัวกระบอกกับฝากระบอกที่เป็นสีเงินของโลหะ ซึ่งตัดกับสีของตัวกระบอกและฝาได้อย่างลงตัว โดยตัวฝามาพร้อมหูหิ้วโลหะแข็งแรง ที่สามารถใช้หิ้วได้ทันที โดยไม่ต้องพึ่งพาถุงสวมแก้ว ตัวกระบอกน้ำมีให้เลือกด้วยกันสามเฉดสี ประกอบด้วยสีเขียว(มิ้นท์)พาสเทล สีม่วงพาสเทล และสีขาว(ครีม) ราคาจำหน่ายอยู่ที่ใบละ 750 บาท นับเป็นหนึ่งในตัวเลือกกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิที่ค่อนข้างคุ้มค่าสำหรับคนที่ต้องการกระบอกที่มีไซส์ความจุใหญ่หน่อยไว้ใช้บรรจุเครื่องดื่มสำหรับจิบดื่มได้ตลอดทั้งวัน และสามารถพกพาใช้งานได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องซื้อถุงสวมเพิ่ม