ในการออกแบบ และเลือกผลิตสินค้าใด ๆ เป็นของพรีเมี่ยมสำหรับใช้ในกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ นั้นถือว่ามีปัจจัยที่ผู้ออกแบบ หรือนักการตลาดต้องคำนึงถึงหลากหลายปัจจัย ทั้งเรื่องของต้นทุนการผลิตสินค้านั้น ๆ ขนาดของตัวสินค้า ดีไซน์สินค้า ฟังก์ชั่นการใช้งาน เรียกได้ว่าจำเป็นต้องเลือกออกแบบและผลิตให้ออกมามีความแมตช์กันได้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่อยู่ในแคมเปญการตลาดนั้น ๆ นั่นเอง เช่นเดียวกันกับสินค้ายอดฮิตที่นิยมนำมาทำเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับโปรโมทแคมเปญการตลาดต่าง ๆ อย่างกระบอกน้ำ ที่มีหลายแบบทั้ง กระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำสแตนเลส  ก็มีปัจจัยหลายอย่างในการเลือกออกแบบ และกำหนดสเปคสินค้าให้เราได้ตัดสินใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของขนาดความจุ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยที่รบกวนแพลนการจัดทำกระบอกน้ำพรีเมี่ยมของแบรนด์ หรือบริษัทต่าง ๆไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าขนาดจุของสินค้าชิ้นนี้ไม่มีตัวเลขที่เป็นมาตรฐานตายตัว และแต่ละแบรนด์ผู้ผลิตก็มีการกำหนดขนาดความจุของสินค้าตัวเองออกมาแตกต่างกันออกไป ตามความเหมาะสมของดีไซน์สินค้าแต่ละรุ่นของตัวเอง ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำการเลือกช่วงขนาดความจุของกระบอกน้ำพรีเมี่ยมให้เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ให้หลายคนได้นำไปใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจกัน
ขนาด 450-550 มล. สำหรับกระบอกน้ำแบบพกพา ช่วงขนาดความจุแรกที่เหมาะจะเลือกใช้กับกระบอกน้ำที่มีดีไซน์แบบเน้นการพกพา เช่น กระบอกน้ำสำหรับแคมเปญการตลาดที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นผู้บริโภคสายสุขภาพ ชื่นชอบในการออกกำลังกาย ซึ่งต้องการกระบอกน้ำที่พกพาสะดวกไว้ใช้งานระหว่างกิจกรรมการออกกำลังกายต่าง ๆ ก็คือความจุในช่วง 450-550 มล. หรือประมาณครึ่งลิตรนั่นเอง ซึ่งถือเป็นช่วงความจุที่สะดวกต่อการพกพา เมื่อพกพาติดตัวแล้วไม่รู้สึกว่ามีน้ำหนักที่มากเกินจนเป็นภาระต่อการเดินทาง
ความจุ 750-800 มล. สำหรับกระบอกน้ำดีไซน์แบบแก้วเก็บความเย็น นอกเหนือจากกระบอกน้ำดีไซน์แบบกระบอกพกพาแล้ว ดีไซน์ยอดฮิตอีกแบบหนึ่งที่นิยมใช้งานเป็นของพรีเมี่ยมในแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ก็คือ ดีไซน์แบบแก้วเก็บความเย็น หรือก็คือกระบอกที่ขนาดรอบวงกว้างหน่อย สามารถปรับใช้งานเป็นแก้วน้ำสำหรับจิบดื่มระหว่างวันได้นั่นเอง ซึ่งแคมเปญการตลาดที่เหมาะจะเลือกใช้กระบอกน้ำดีไซน์นี้ก็คือ แคมเปญที่เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นหนุ่มสาวออฟฟิศ ซึ่งมีความต้องการใช้งานแก้วน้ำเก็บความเย็นไว้บรรจุน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มเมนูโปรดสำหรับจิบดื่มระหว่างวันที่โต๊ะทำงาน โดยช่วงขนาดความจุของกระบอกดีไซน์นี้จะอยู่ที่ประมาณ 750-800 มล. หรือเกือบ ๆ 1 ลิตรนั่นเอง ซึ่งถือเป็นช่วงความจุที่มากพอสำหรับบรรจุเครื่องดื่มไว้จิบดื่มตลอดทั้งวัน แต่อาจจะไม่สะดวกต่อการพกพาติดตัวสักเท่าไหร่
ความจุ 330-400 มล.สำหรับกระบอกน้ำเด็กและกระบอกดีไซน์กะทัดรัดต่าง ๆ อีกหนึ่งช่วงขนาดความจุที่เหมาะจะเลือกใช้งานกับกระบอกน้ำพรีเมี่ยมสำหรับแคมเปญการตลาดต่าง ๆ ก็คือ ช่วงขนาดความจุที่น้อยกว่าครึ่งลิตร หรือก็คือช่วงความจุประมาณ 330-400 มล. ซึ่งเหมาะสำหรับแคมเปญการตลาดที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเด็ก ๆ หรือต้องการโปรโมทไลน์สินค้าแม่และเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับกระบอกน้ำพรีเมี่ยมที่มีการคอลแลปกับลวดลายการ์ตูน อนิเมะชื่อดังต่าง ๆ ถือว่าเหมาะอย่างยิ่งในการเลือกใช้ช่วงขนาดความจุแบบกะทัดรัดดังกล่าว เช่นเดียวกับกระบอกดีไซน์กะทัดรัดอื่น ๆ สำหรับผู้ใหญ่ ก็สามารถเลือกใช้ช่วงขนาดความจุที่ต่ำกว่าครึ่งลิตรได้ และอาจมีส่วนกระตุ้นความสนใจจากกลุ่มลูกค้าที่ชื่นชอบไลฟ์สไตล์แบบคล่องตัว และไม่นิยมพกพาสิ่งของที่มีน้ำหนักมากเกินความจำเป็นให้หันมาสนใจในตัวสินค้าพรีเมี่ยม และแคมเปญของบริษัทได้ด้วย

ในยุคปัจจุบันนี้ ผู้คนหันมาใส่ใจในการอนุรักษ์และรักษาสิ่งแวดล้อมกันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ก็ด้วยเนื่องจากปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของภาวะโลกร้อน สภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน ปัญหามลพิษที่เกิดขึ้นมากมาย รวมถึงปัญหาขยะที่เกิดขึ้นทั่วโลกด้วย ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ หรือบรรจุภัณฑ์ที่มีความใส่ใจและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้นอย่างเช่น การใช้กระบอกน้ำสแตนเลส แก้วมัค แต่ละคนก็เลือกวิธีการที่แตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นการลดการใช้ถุงพลาสติก เน้นการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อโลก หนึ่งเทรนด์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คือการใช้บรรจุภัณฑ์อย่างกระบอกน้ำ พี่สามารถใช้ซ้ำได้ ซึ่งสิ่งนี้ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีอย่างกระบอกพลาสติกก็สามารถใช้ได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นการลดปัญหาขยะใช้ครั้งเดียวได้เป็นอย่างดีมากเลยทีเดียว

และในวันนี้เองเราจะมาคุยกันเรื่องของ เทรนด์กระบอกน้ำรักษ์โลก ซึ่งเป็นเทรนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน และมีส่วนช่วยอย่างมากในการลดปัญหาขยะที่เราใช้ครั้งเดียว หรือบรรจุภัณฑ์ที่เราใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง กระบอกน้ำเหล่านี้ดีอย่างไร ทำไมผู้คนจึงนิยมมากถึงขนาดนี้

กระบอกน้ำรักษ์โลก กับความนิยมในปัจจุบัน

เนื่องด้วยกระแสการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มผู้บริโภคมากมาย รวมทั้งทางผู้ผลิตเองด้วย ต่างให้ความสำคัญในการเลือกผลิตบรรจุภัณฑ์ที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบรรดาแก้วที่เป็นกระดาษ ถ้วยกระดาษ จานกระดาษ หรือบรรจุภัณฑ์อย่างกระบอกน้ำ

นอกจากนี้แล้ว กระบอกน้ำรักษ์โลกเอง หลายครั้งยังทำมาจากวัสดุรีไซเคิล ซึ่งนอกจากเหล่านี้จะสามารถหยิบมาใช้ซ้ำได้แล้ว ทางต้นทางการผลิตยังเป็นการนำขยะมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย มีการผลิตและทำออกมาด้วยรูปลักษณ์ที่มีความแตกต่างเป็นเอกลักษณ์ มีลวดลายที่มีความสวยงามและน่าใช้งานเป็นอย่างมาก

ข้อดีของการใช้กระบอกน้ำรักษ์โลก

กระบอกน้ำรักโลกที่ทำมาจากวัสดุรีไซเคิลเหล่านี้ จะให้ว่ากันตามตรงมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มีข้อดีในการใช้งานอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายข้อ ข้อแรกเลยคือมันช่วยในการประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อน้ำบริโภค เพราะเราสามารถที่จะนำน้ำดื่มมาจากบ้านของเรา และแน่นอนมันตามมาซึ่งข้อดีคือการลดปัญหาขยะอันเกิดจากพลาสติก หรือขวดน้ำทั่วไปที่เราซื้อในบรรดาห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตต่างๆ

นอกจากนี้เรายังสามารถที่จะมั่นใจได้แน่นอนในเรื่องของความสะอาด เพราะเราจะต้องทำความสะอาดเองในทุกวัน อีกทั้งเครื่องดื่มของเรายังเป็นเครื่องดื่มที่เราเลือกเอง นอกจากเรื่องของความสะอาดแล้ว ยังเป็นเรื่องของสุขภาพในการเลือกเครื่องดื่มเองอีกด้วย นอกจากนี้เรายังหยิบมันมาใช้งานได้แทบจะตลอดเวลา หลายคนไม่ได้ซื้อเพียงแค่อันเดียว มีทั้งที่บ้าน ที่ทำงาน หรือบนรถด้วยเช่นเดียวกัน

และประโยชน์ข้อสุดท้ายที่อยากจะหยิบมาพูดถึง คือมันช่วยในการลดปัญหาขยะ ใช้ครั้งเดียว ซึ่งนั่นนำมาซึ่งการลดโลกร้อนได้เป็นอย่างดี เพราะสิ่งนี้เราสามารถหยิบมาใช้งานได้หลายครั้ง ทำความสะอาดและใช้ซ้ำได้ โดยปกติแล้วบรรดาเครื่องดื่มที่บรรจุในขวดพลาสติกเหล่านี้ เราอาจสามารถหยิบมันมาใช้งานได้ครั้งเดียว แต่กับสิ่งนี้นั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

ในแง่ของของพรีเมี่ยม

แน่นอนว่าสิ่งนี้ ถูกหยิบยกมาใช้งานเป็นของพรีเมี่ยมอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็นับว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และก็ยังคงอยากแนะนำให้ทำอยู่เสมอ เนื่องจากอย่างที่กล่าวไปในข้างต้นแล้ว ว่าผู้คนมักจะหยิบสิ่งนี้มาใช้งานอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นจึงสร้างการมองเห็นได้เป็นอย่างดี และถือเป็นของพรีเมี่ยมที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะในยุคสมัยไหนก็ตาม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งยุคสมัยนี้ด้วยซ้ำ

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันกระบอกน้ำ ถือเป็นหนึ่งในไอเทมสามัญประจำตัวสำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ มีทั้งกระบอกน้ำสแตนเลส แก้วน้ำเก็บความเย็น และก็มีแบรนด์ผู้ผลิตหลายแบรนด์ที่พัฒนาสินค้าคุณภาพดีออกมาวางจำหน่ายมากมายจนชื่อแบรนด์ติดตลาด เป็นที่คุ้นหูผู้บริโภคกันในวงกว้าง อาทิเช่น แบรนด์ Yeti, Stanley, Zojirushi เป็นต้น เรียกได้ว่าภาพลักษณ์ของสินค้าชิ้นนี้ในปัจจุบันไม่ได้เป็นเพียงแค่บรรจุภัณฑ์สำหรับเก็บเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังมีภาพลักษณ์เรื่องของคุณภาพในด้านต่าง ๆ ซึ่งส่งผลต่อความรู้สึกของผู้บริโภคในการตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหามาใช้งานอีกด้วย อย่างไรก็ตามในการเลือกกระบอกน้ำคุณภาพดีสักใบไว้ใช้งานนั้น สิ่งสำคัญอยู่ที่ความต้องการใช้งานของแต่ละคน ซึ่งอาจแตกต่างกันออกไป เพราะแบรนด์ผู้ผลิตเจ้าดังแต่ละแบรนด์ต่างก็มีจุดเด่นในการพัฒนาสินค้าที่แตกต่างกันออกไปเช่น ตัวอย่างเช่น แบรนด์ที่เน้นผลิตกระบอกน้ำสายสปอร์ตสำหรับใช้งานระหว่างการเล่นกีฬา หรือกิจกรรมออกกำลังกายต่าง ๆ อาจจะไม่ได้มีจุดเด่นเรื่องความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิ แบรนด์ที่มีจุดเด่นเรื่องการเก็บรักษาอุณหภูมิก็อาจจะไม่มีจุดเด่นเรื่องของฟังก์ชั่นการใช้งานรองอื่น ๆ เช่น การถอดประกอบตัวกระบอก เป็นต้น ในบทความนี้จึงได้คัดเอาลิสต์ยี่ห้อกระบอกน้ำที่มีจุดเด่นเรื่องความสามารถในการเก็บความเย็นของเครื่องดื่ม ซึ่งน่าจะเป็นหนึ่งในคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความต้องการใช้งานของผู้บริโภคจำนวนมากมาแนะนำให้ได้ทราบกัน
Hydro Flask แบรนด์แรกที่เลือกมาแนะนำกันต้องบอกว่าอาจจะไม่ใช่แบรนด์ที่ผุ้บริโภคในบ้านเราคุ้นหูกันสักเท่าไหร่ แต่ถ้าหากว่ากันที่ความสามารถในการเก็บรักษาความเย็นแล้วก็ต้องยกให้เป็นหนึ่งในแบรนด์ตัวเลือกที่ดีที่สุด โดย hydro flask นั้นเป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกันที่เน้นผลิตกระบอกน้ำโลหะระบบสุญญากาศ ดีไซน์สินค้ามีความเรียบง่ายและดูทันสมัยในแบบฉบับของสไตล์มินิมอล ราคาจำหน่ายกระบอกน้ำไฮโดรเฟล็กโดยเฉลี่ยสำหรับช่องทางจำหน่ายออนไลน์ต่าง ๆ อยู่ที่ประมาณ 2,000-3,000 บาท(ขึ้นอยู่กับรุ่น และขนาดความจุ)
Yeti อีกหนึ่งแบรนด์สัญชาติอเมริกันที่ต้องยกให้อยู่ในลิสต์กระบอกน้ำที่มีจุดเด่นเรื่องของความสามารถในการเก็บความเย็นของเครื่องดื่มอย่างแน่นอนก็คือเยตินั่นเอง ทั้งนี้แบรนด์กระบอกน้ำเยตินั้นถือกำเนิดขึ้นจากสองพี่น้องตระกูลไซเดอร์ส “รอย” และ “ไรอัน” ซึ่งหลงใหลในกิจกรรมการตกปลา และทั้งคู่ก็ต้องการบรรจุภัณฑ์ที่สามารถพกพาเครื่องดื่มและคงอุณหภูมิเครื่องดื่มไว้ได้ยาวนานสำหรับจิบดื่มระหว่างตกปลา  จึงได้ทำการคิดค้นและประดิษฐ์กระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิขึ้นมาไว้ใช้งานเอง ก่อนต่อมาคุณภาพของกระบอกน้ำที่ทั้งคู่ประดิษฐ์ขึ้นมาจะถูกพูดถึงบอกต่อกันจนทำให้เกิดเป็นแบรนด์เยติขึ้นมา สำหรับราคาจำหน่ายกระบอกน้ำเยติแท้นั้นอยู่ที่ประมาณใบละ 2,000-3,000 บาท
Contigo กระบอกน้ำอีกหนึ่งแบรนด์ที่ผู้บริโภคในบ้านเราอาจจะไม่คุ้นชื่อเท่าไหร่ แต่ก็นับเป็นแบรนด์ที่ผลิตกระบอกน้ำเก็บความเย็นคุณภาพดีมาแล้วมากมายหลายรุ่นก็คือ Contigo แบรนด์สัญชาติอเมริกันที่ผลิตกระบอกน้ำออกมาวางจำหน่ายในหลากหลายสเปค ตั้งแต่กระบอกน้ำพลาสติกในระดับราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น ไปจนถึงกระบอกเก็บอุณหภูมิในราคาหลักพัน จุดเด่นของคอนติโก้นั้นนอกจากความสามารถในการเก็บความเย็นของเครื่องดื่มแล้วก็คือ ความหลากหลายของไลน์สินค้า ซึ่งมีคอนติโก้มีสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการลูกค้าได้หลากหลายกลุ่มทั้งกระบอกน้ำไซส์มาตรฐานสำหรับผู้ใหญ่ และกระบอกน้ำขนาดเล็กลวดลายการ์ตูนต่าง ๆ สำหรับเด็ก ๆ โดยการเลือกซื้อเลือกหาสินค้าของแบรนด์ Contigo สามารถเลือกหาได้ตามช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ

สำหรับผู้บริโภคยุคใหม่สายเฮลท์ตี้ กระบอกน้ำถือว่าเป็นไอเทมชิ้นหนึ่งที่มีความจำเป็นต่อไลฟ์สไตล์ประจำวันไม่น้อยเลยทีเดียว และหลายคนก็มักจะมีการเลือกซื้อเลือกหากระบอกน้ำใบใหม่เพิ่มอยู่เป็นระยะๆ อย่างกระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำสแตนเลส เพื่อไว้ใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่างกันออกไป หรือบ้างก็เพื่อเก็บสะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีสินค้าลวดลาย หรือคอลเลคชั่นพิเศษจากแบรนด์ต่างๆ ออกมาวางจำหน่าย เรียกได้ว่าสำหรับผู้บริโภคสายสุขภาพแล้ว ไอเทมชิ้นนี้ไม่ได้มีแค่ประโยชน์ใช้งานพื้นฐานเท่านั้น แต่ยังถือเป็นของสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจชิ้นหนึ่งเช่นกัน และแน่นอนว่าหนึ่งในแบรนด์กระบอกน้ำที่สายเฮลท์ตี้ให้ความไว้วางใจเลือกใช้งานก็คือ โซจิรูชิ แบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น ซึ่งได้รับคำชื่นชมอย่างมากในเรื่องคุณภาพการเก็บรักษาอุณหูภูมิเครื่องดื่มเหมือนกับแก้วเก็บความเย็น จึงกลายเป็นแบรนด์ที่ได้รับการแนะนำบอกต่อในหมู่ผู้บริโภคมากที่สุดแบรนด์หนึ่ง อย่างไรก็ตามแม้ว่าโซจิรูชิจะเป็นแบรนด์ที่ได้รับคำชื่นชมเรื่องของคุณภาพดังกล่าว แต่ขณะเดียวกันสินค้าหลายๆ รุ่นของแบรนด์ก็ดูจะมีจุดอ่อนในเรื่องของดีไซน์ที่ไม่เป็นถูกใจผู้บริโภคจำนวนมากสักเท่าไหร่ เนื่องจากธีมออกแบบหลักๆของแบรนด์จะเน้นความเรียบง่าย ดีไซน์ที่เป็นมาตรฐานดั้งเดิม และเลือกใช้สีพื้นซะเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่บางคนที่ต้องการทั้งคุณภาพและดีไซน์ที่สวยถูกใจ ทันยุคทันสมัยด้วย ในบทความนี้จึงได้คัดเอากระบอกน้ำรุ่นแนะนำของแบรนด์โซจิรูชิ ซึ่งมีดีไซน์ที่สวยโดดเด่นต่างไปจากสินค้าหลายๆ รุ่นของแบรนด์ เหมาะแก่การซื้อเก็บสะสมมาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
Zojirushi SM-ZB48ESB รุ่นที่ตกยกให้เป็นรุ่นไฮไลท์ที่น่าซื้อเก็บสะสมมากที่สุดของโซจิรูชิก็คือ กระบอกน้ำดีไซน์เรียบๆ รูปทรงมาตรฐาน แต่มาพร้อมลวดลายที่นำเสนอเอกลักษณ์ความเป็นไทย โดยนำเอารูปช้าง รถตุ๊กตุ๊ก และเสาชิงช้ามาใส่ พร้อมกับข้อความ SAWASDEE THAILAND ในชื่อรุ่น MUGS รหัสรุ่น sm-zb48esb โดยมีให้เลือกสองสีด้วยกันคือสีน้ำเงินเข้ม(กรมท่า) และสีครีม ความจุ 0.48 ลิตร ราคาจำหน่ายใบละ 1,400 บาท
Zojirushi Food Jar รุ่นแนะนำตัวต่อมาที่เหมาะสำหรับสายเฮลท์ตี้ที่กำลังมองหากระบอกน้ำทรงเตี้ย ดีไซน์แบบมินิมอล ซึ่งก็คือในรุ่น Food Jar รหัสรุ่น SW-KA40, SW-KA52, SW-KA75 กระบอกน้ำโลหะเก็บอุณหภูมิทรงเตี้ยที่สามารถปรับใช้งานเป็นแก้วดื่ม และภาชนะใส่อาหารเมนูร้อนต่างๆได้อย่างสะดวก มาพร้อมกับขนาดความจุให้เลือกสามรุ่น(ตามเลขรุ่น คือ 0.40 L, 0.52 L, 0.75 L) มีให้เลือกสามสี ประกอบด้วยฟ้าพาสเทล ชมพูพาสเทล และเทา โดยมีราคาจำหน่ายตามขนาดรุ่นดังนี้ 1,490, 1,590 และ 1,790 บาท
Zojirushi MUGS SM-MA25, SM-MA35 กระบอกน้ำรุ่นที่ต้องบอกว่าเป็นตัวเลือกที่ดีรุ่นหนึ่งสำหรับสายเฮลท์ตี้ที่ต้องการกระบอกน้ำขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวกในดีไซน์มินิมอลแบบทันสมัย ก็คือในรุ่น MUGS SM-MA25 และ SM-MA35(ตัวเลขรุ่นตามขนาดความจุ คือ 0.25 L และ 0.35 L) เป็นกระบอกน้ำที่มาพร้อมดีไซน์มินิมอลร่วมสมัย มีให้เลือกสองสีด้วยกัน คือสีเขียวอ่อนพาสเทล และสีชมพูพาสเทล สำหรับในรุ่นความจุ 0.25 ลิตร และสีน้ำเงินเข้ม, สีเขียวอ่อนพาสเทล สำหรับในรุ่นความจุ 0.35 ลิตร ดีไซน์โดยรวมของตัวกระบอกน้ำเรียบง่าย นอกจากสีสันหลักของตัวกระบอกดังกล่าวแล้ว ก็ไม่มีการใช้สีสัน หรือพิมพ์ลวดลายใดๆ ลงไปเพิ่ม มีเพียงโลโก้รูปช้างของแบรนด์ที่อยู่บริเวณฐานกระบอกเท่านั้น ราคาจำหน่ายตามขนาด ในรุ่น sm-ma25 ใบละ 1,200 บาท และในรุ่น sm-ma35 ใบละ 1,300 บาท

+ Yeti, Seagull เป็นต้น ซึ่งแบรนด์เหล่านี้ก็ถือว่ามีสินค้าคุณภาพ ที่ผลิตด้วยมาตรฐานที่น่าพึงพอใจให้เราได้เลือกซื้อเลือกหามาใช้งานหลากหลายรุ่นด้วยกัน แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีแบรนด์กระบอกน้ำคุณภาพระดับสากลที่ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคในหลายประเทศอีกมากมายหลายแบรนด์ที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นหูคุ้นตาสักเท่าไหร่ ซึ่งแน่นอนว่าแบรนด์เหล่านี้ย่อมเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหลายคนที่ต้องการมองหาสินค้าคุณภาพที่มีความโดดเด่นแตกต่างไปจากกระแสนิยมในบ้านเรา หรือว่ากันง่ายๆก็คือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์คนที่ต้องการกระบอกน้ำคุณภาพดีสักใบ โดยที่แบรนด์ หน้าตาดีไซน์ไม่ซ้ำกับของเพื่อน หรือคนรู้จักเราด้วยนั่นเอง ในบทความนี้จึงได้รวบรวมเอาแบรนด์กระบอกน้ำยอดนิยมระดับสากลที่อาจจะเลือกซื้อเลือกหาได้ไม่สะดวกเหมือนกับแบรนด์ยอดฮิตในบ้านเราเท่าไหร่ แต่ก็มีคุณภาพที่ควรค่าแก่เสาะหามาใช้งานมาแนะนำบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
– Camelbak แบรนด์แรกที่เลือกมาแนะนำกันนี้ ถือเป็นแบรนด์ยอดฮิตในกลุ่มผู้บริโภคสายปอร์ตในหลายๆประเทศ ซึ่งก็คือแบรนด์ คาเมลแบ็ก แบรนด์สัญชาติอเมริกันที่เน้นผลิตกระบอกน้ำสำหรับใช้งานในระหว่างการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และทำกิจกรรมกลางแจ้งต่างๆ ตัวกระบอกน้ำเน้นใช้วัสดุสแตนเลสคุณภาพดี ซึ่งแน่นอนว่ามีจุดเด่นในเรื่องความแข็งแรงทนทาน มีการใช้ฉนวนกันความร้อนเพื่อปกป้องอุณหภูมิของเครื่องดื่มที่บรรจุไว้จากแสงแดด แต่ขณะเดียวกันก็มีสินค้าที่เป็นรุ่นกระบอกน้ำพลาสติกให้เลือกซื้อเลือกหามาใช้งานกันตามความเหมาะสมเช่นกัน โดยราคาจำหน่ายสำหรับกระบอกน้ำสแตนเลสเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 900 บาท และเริ่มต้นที่ 500 บาท สำหรับรุ่นที่เป็นวัสดุพลาสติก
– Nalgene แบรนด์สัญชาติอเมริกันอีกหนึ่งแบรนด์ที่เน้นผลิตสินค้าสำหรับใช้งานระหว่างออกกำลังกาย และทำกิจกรรมกลางแจ้งเช่นกันก็คือ แบรนด์ Nalgene ซึ่งมีกระบอกน้ำจากวัสดุพลาสติกเกรดคุณภาพ ในราคาประหยัดให้เราได้เลือกซื้อเลือกหามาใช้งานตามความต้องการหลายรุ่นหลายขนาดด้วยกัน จุดเด่นของแบรนด์ nalgene นอกจากเรื่องของความแข็งแรงทนทานแล้ว ก็คือเรื่องการออกแบบ สีสันของตัวกระบอกน้ำที่มีให้เลือกหลากหลาย เรียกว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มาในธีม Colorful ก็ว่าได้ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณใบละ 300 บาทเท่านั้น
– Hydro Flask มาที่แบรนด์กระบอกน้ำคุณภาพอีกแบรนด์หนึ่งที่ได้รับคำชื่นชมในเรื่องความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มจากผู้บริโภคในหลายประเทศเหมือนกับแก้วเก็บความเย็น ซึ่งก็คือแบรนด์ไฮโดร เฟล็ก แบรนด์ผู้ผลิตกระบอกน้ำสแตนเลสที่ใช้นวัตกรรมการผลิตแบบสุญญากาศ 2 ชั้น เพื่อคุณภาพในการคงอุณหภูมิเครื่องดื่ม นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังพรีเซนต์ไว้ว่าวัสดุสแตนเลสที่นำมาใช้ในการผลิตกระบอกน้ำเป็นสแตนเลสบริสุทธิ์เกรดคุณภาพ ปลอดภัยจากสารตกค้างต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย ส่วนดีไซน์กระบอกโดยรวมถือว่ามีความสวยงาม เรียบหรูตามแบบฉบับของดีไซน์ยอดนิยมยุคใหม่ โดยตัวกระบอกน้ำแต่ละรุ่นไม่มีการพิมพ์ลวดลายใดๆ มีเพียงแค่โลโก้ และชื่อแบรนด์ Hydro Flask ขนาดเล็กเท่านั้น ขณะที่ฝาปิดเป็นพลาสติกสีดำ ดีไซน์เรียบง่ายมาพร้อมกับหูหิ้วในตัว ราคาจำหน่ายเริ่มต้นใบละประมาณ 1,500 บาท โดยราคาจะขึ้นอยู่กับขนาดความจุ ในรุ่นขนาดความจุประมาณ 1.9 ลิตร มีราคาจำหน่ายอยู่ที่ 2,800 บาท

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันกระบอกน้ำถือเป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่คนรุ่นใหม่ต้องมีพกพาติดตัวไว้บรรจุน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มเมนูโปรดต่างๆ สำหรับจิบดื่มระหว่างวัน มีหลากหลายประเภท ทั้งกระบอกน้ำพลาสสติก แก้วเก็บความเย็น แก้วมัค ซึ่งเทรนด์การพกพากระบอกน้ำนั้นก็มีจุดเริ่มต้นมาจากทั้งกระแสรณรงค์ร่วมลดใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น แก้วกาแฟ แก้วเครื่องดื่มตามร้านค้าทั่วไป เพื่อลดปัญหาโลกร้อน และกระแสความนิยมในการดูแลรักษาสุขภาพด้วยการจิบน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายระหว่างวันในปริมาณที่เพียงพอ อย่างไรก็ตามตัวเลือกกระบอกน้ำจากแบรนด์ผู้ผลิตเจ้าต่างๆ ที่มีให้ผูู้บริโภคเลือกหาเลือกช้อปในตลาดถือได้ว่าค่อนข้างหลากหลายและปะปนกันทั้งในแง่ของคุณภาพ และดีไซน์ การเลือกซื้อกระบอกน้ำที่ถูกใจสักใบไว้พกพาใช้งานจึงถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลายคนเหมือนกัน โดยบางแบรนด์อาจมีคุณภาพถูกใจ เก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มได้ดี แต่ดีไซน์ไม่ถูกใจ หรือบางแบรนด์อาจมีดีไซน์ที่สวยถูกใจ แต่ราคาแพงเกินไป เป็นต้น ในบทความนี้จึงได้เลือกเอา กระบอกน้ำรุ่นแนะนำที่มีคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา และมีดีไซน์สวยในแบบฉบับมินิมอล ซึ่งน่าจะโดนใจผู้บริโภคส่วนใหญ่มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน
– LocknLock Metro Edge Tumbler รุ่นแรกที่เลือกมาแนะนำกันเป็นกระบอกน้ำจากแบรนด์ LocknLock กระบอกน้ำดีไซน์เรียบๆ ในชื่อรุ่น Metro Edge Tumbler โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือดีไซน์เรียบๆในแบบฉบับมินิมอลแต่แฝงด้วยลูกเล่นที่ทำให้ตัวสินค้าดูดีตามชื่อ ซึ่งก็คือในส่วนขอบล่างของกระบอกที่ใช้สีเงินของเนื้อโลหะตัดกับสีหลักของตัวกระบอก(มีให้เลือกสามสี เขียวเข้ม, น้ำเงินเข้ม และขาว) และรูปทรงส่วนบนของกระบอก หรือปากกระบอกที่ทำให้เว้าเข้า(แคบกว่าตัวกระบอก) เพื่อความสะดวกในการหยิบจับใช้งาน และเทเครื่องดื่ม โดย LocknLock Metro Edge Tumbler นี้มีราคาจำหน่ายเพียงใบละ 699 บาทเท่านั้น
– LocknLock Metro Mug รุ่นแนะนำตัวต่อมายังคงอยู่ที่แบรนด์ล็อคแอนด์ล็อค ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่มีธีมออกแบบสินค้าสไตล์มินิมอลเป็นธีมหลักอยู่แล้ว โดยเป็นในรุ่น locknlock metro mug กระบอกน้ำที่น่าจะตอบโจทย์คนที่ต้องการกระบอกทรงเตี้ย ซึ่งสามารถวางแมตช์กับของตกแต่งบนโต๊ะทำงานได้ดีกว่ากระบอกทรงสูง โดยตัวกระบอก metro mug มาพร้อมกับหููจับ สามารถใช้งานเป็นกึ่งแก้วได้ มีความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะใช้ชื่อรุ่นว่าเมโทรมัค ซึ่งอาจทำให้หลายคนเข้าใจว่าวัสดุกระบอกนั้นทำจากเซรามิค แต่ที่จริงแล้วตัวกระบอกน้ำสแตนเลส ทำมาจากวัสดุสแตนเลส และมีราคาจำหน่ายเพียงใบละ 599 บาทเท่านั้น
– Zojirushi Carry Tumbler SX-JA40 เมื่อพูดถึงกระบอกน้ำแบรนด์โซจิรูชิก็แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่แล้วหลายคนจะคุ้นเคยกับจุดเด่นเรื่องของคุณภาพในการเก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นแบรนด์เบอร์ต้นๆ ที่ได้รับคำชื่นชมในเรื่องนี้ ขณะที่ดีไซน์สินค้านั้นแม้ว่าจะเป็นดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่ก็ดูเหมือนว่าสินค้าหลายๆรุ่นจะไม่ค่อยถูกจริตชาวมินิมอลยุคใหม่สักเท่าไหร่ ทว่ารุ่นที่เลือกมาแนะนำ ซึ่งก็คือ Zojirushi Carry Tumbler SX-JA40 นี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่มีดีไซน์มินิมอลแบบทันสมัยถูกใจมินิมอลลิสม์ยุคใหม่ โดยตัวกระบอกน้ำเลือกใช้โทนสีแบบพาสเทล มีให้เลือก 4 สีด้วยกัน ประกอบด้วย ฟ้าพาสเทล ชมพูพาสเล เขียวมิ้นท์พาสเทล และเขียวขี้ม้าพาสเทล รูปทรงกระบอกทรงสูง ความจุ 0.4 ลิตร ด้านบนกระบอกมีหูหิ้วพกพาสะดวก ราคาจำหน่ายใบละ 975 บาท(โปรโมชั่นอาจขึ้นอยู่กับร้านตัวแทนจำหน่าย)

พลาสติกนับว่าเป็นวัสดุที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก และมักจะถูกใช้ผลิตบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ในที่นี้เราจะมาพูดถึงกระบอกน้ำในรูปแบบพลาสติก ซึ่งของชิ้นนี้ถือเป็นของใกล้ตัวและของที่หยิบมาใช้ในชีวิตประจำวันกันอยู่ตลอด สำหรับหลายคนที่ใช้กระบอกน้ำอยู่นั้น เรามักจะพบเห็นการใช้ในรูปแบบของกระบอกน้ำสแตนเลส หรือเป็นแบบที่แก้วน้ำเก็บความเย็นได้ หรือแก้วมัคแบบกระบอกน้ำพลาสติกก็ค่อนข้างได้รับความนิยมเหมือนกัน มันค่อนข้างมีความยืดหยุ่นสูง สามารถใช้ได้หลายอัน และการเป็นพลาสติกทำให้นำไปดีไซน์ได้หลากหลายรูปแบบมากกว่า

แต่หลายคนที่ใช้กระบอกน้ำพลาสติก ก็อาจจะมีเรื่องกังวลอยู่บ้างเหมือนกัน หนึ่งในนั้นคือเรื่องของปัญหาความปลอดภัย ในปัจจุบันการใช้งานกระบอกน้ำพลาสติก ยังคงมีอันตรายอยู่หรือไม่ มันสามารถหยิบมาใช้ซ้ำและใช้บ่อยได้อยู่หรือไม่ หรือแม้แต่การนำไปไว้ในช่องแช่แข็ง หรือตั้งทิ้งไว้ในรถ และนำมาจอดไว้กลางแดดยังสามารถทำได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้อาจทำให้มีสารอันตรายออกมาจากตัวพลาสติกหรือไม่ วันนี้เรามาคุยกัน

พลาสติกที่นำมาใช้ในการทำกระบอกน้ำ

ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อน ถึงเกรดของพลาสติกสำหรับใช้ในการทำกระบอกน้ำของเรา และพลาสติกเหล่านี้มีสารที่อันตรายต่อตัวผู้ใช้งานหรือไม่ ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่า พลาสติกบางชนิดซึ่งเป็นวัสดุสำคัญที่ใช้ในการทำ อาจจะมีการปล่อยสารเคมีที่เป็นอันตรายอย่างสาร BPA ได้แต่ส่วนมากแล้วพลาสติกที่ใช้สำหรับการทำกระบอกน้ำของเรา ที่เป็นพลาสติกยอดนิยมจะมีอยู่ด้วยกันประมาณ 5 ชนิดได้แก่ พอลิเอทิลีน (PE) พอลิเอทิลีนเทเรฟทาเลต (PET) พอลิพรอพิลีน (PP) พอลิคาร์บอเนต (PC) และพอลิไวนิลคลอไรด์ (PVC)

หากทำจากพลาสติกในรูปแบบของพอลิคาร์บอเนตและพอลิไวนิลคลอไรด์ อาจมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนสาร BPA ดังกล่าว ดังนั้นหากเป็นพลาสติกเกรดนี้ ผู้ใช้งานอาจจะต้องระวังและพยายามหลีกเลี่ยงเป็นพิเศษ คำถามต่อมาคือเราจะรู้ได้อย่างไร ว่าวัสดุสำหรับทำกระบอกน้ำของเราจะเป็นวัสดุดังกล่าวนี้ หากจะให้ง่ายที่สุด ให้เราลองสังเกต มันจะมีตัวเลขอยู่ หากมีเลข 3 หรือเลข 7 พิมพ์อยู่บนวัสดุผลิตภัณฑ์ของเรา แสดงว่าเป็นพลาสติกเกรดนี้ ซึ่งตัวเลขเหล่านี้จะทำการบ่งบอกถึงชนิดของพลาสติกที่จะนำมาใช้

การนำมาใส่เครื่องดื่มร้อน

จนแม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ เราก็ไม่เคยที่จะมีการศึกษาและถูกระบุอย่างชัดเจน ว่าการที่เราใส่น้ำร้อนหรือเครื่องดื่มร้อนลงไป มันจะส่งผลเสียอย่างไร แต่หากเราลองมาดูกันตามจริง การใส่น้ำร้อนหรือเครื่องดื่มร้อนลงไปในพลาสติกแบบพอลิคาร์บอเนต มันอาจส่งผลทำให้ปล่อยสาร BPA ออกมา เคยมีการทดลองที่นำน้ำร้อนใส่ลงไปใน แก้วน้ำที่เป็นพลาสติก แล้วพบว่ามีการปล่อยสารที่ว่านี้ออกมามากกว่าปกติถึง 55 เท่า เมื่อเปรียบเทียบกับการใส่น้ำเย็นหรือน้ำอุ่นลงไป

นำไปตั้งทิ้งไว้ในรถกลางแดด

แล้วคำถามต่อไปก็คือ หากเรานำอุปกรณ์ชิ้นนี้ไปไว้ในรถที่จอดอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน มันอาจทำให้สารเคมีบางอย่างหลุดออกมาได้หรือไม่ นอกจากสาร BPA แล้วยังมีอีกสารหนึ่งที่เราอาจจะเคยได้ยินอย่างชื่อ “ไดออกซิน” มีความเชื่อว่ามันอาจถูกปล่อยออกมาในขณะที่นำไปตั้งตากแดดไว้ และอาจเข้ามาปนเปื้อนในเครื่องดื่มของเราซึ่งจะเป็นอันตรายต่อร่างกายต่อไปได้ แต่ที่จริงแล้วความเชื่อนี่ก็ไม่ได้ถูกเสียทีเดียว เคยมีการทดลอง นำน้ำบรรจุลงไปในแก้วพลาสติก 5 ชนิดเลย ซึ่งเป็นพลาสติกที่วางขายกันในท้องตลาดนั่นแหละ นำไปตากแดดไว้เป็นเวลา กว่า 1 วันจนถึง 7 วัน ผลที่ได้คือไม่พบสารเคมีอันตรายเลย

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าปัจจุบันกระบอกน้ำถือเป็นไอเทมชิ้นสำคัญที่คนรุ่นใหม่ต้องมีพกพาติดตัวไว้บรรจุน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มเมนูโปรดต่างๆ อย่าง แก้วน้ำเก็บความเย็น สำหรับจิบดื่มระหว่างวัน ซึ่งเทรนด์การพกพากระบอกน้ำนั้นก็มีจุดเริ่มต้นมาจากทั้งกระแสรณรงค์ร่วมลดใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง เช่น แก้วกาแฟ แก้วเครื่องดื่มตามร้านค้าทั่วไป เพื่อลดปัญหาโลกร้อน และกระแสความนิยมในการดูแลรักษาสุขภาพด้วยการจิบน้ำดื่ม หรือเครื่องดื่มต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายระหว่างวันในปริมาณที่เพียงพอ อย่างไรก็ตามตัวเลือกกระบอกน้ำจากแบรนด์ผู้ผลิตเจ้าต่างๆ ที่มีให้ผู้บริโภคเลือกหาเลือกช้อปในตลาดถือได้ว่าค่อนข้างหลากหลายและปะปนกันทั้งในแง่ของคุณภาพ และดีไซน์เช่น กระบอกน้ำสแตนเลส กระบอกน้ำพลาสติก การเลือกซื้อกระบอกน้ำที่ถูกใจสักใบไว้พกพาใช้งานจึงถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับหลายคนเหมือนกัน โดยบางแบรนด์อาจมีคุณภาพถูกใจ เก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มได้ดี แต่ดีไซน์ไม่ถูกใจ หรือบางแบรนด์อาจมีดีไซน์ที่สวยถูกใจ แต่ราคาแพงเกินไป เป็นต้น ในบทความนี้จึงได้เลือกเอา กระบอกน้ำรุ่นแนะนำที่มีคุณภาพคุ้มค่าคุ้มราคา และมีดีไซน์สวยในแบบฉบับมินิมอล ซึ่งน่าจะโดนใจผู้บริโภคส่วนใหญ่มาบอกกล่าวให้ได้ทราบกัน

• LocknLock Metro Edge Tumbler รุ่นแรกที่เลือกมาแนะนำกันเป็นกระบอกน้ำจากแบรนด์ LocknLock กระบอกน้ำดีไซน์เรียบๆ ในชื่อรุ่น Metro Edge Tumbler โดยจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือดีไซน์เรียบๆในแบบฉบับมินิมอลแต่แฝงด้วยลูกเล่นที่ทำให้ตัวสินค้าดูดีตามชื่อ ซึ่งก็คือในส่วนขอบล่างของกระบอกที่ใช้สีเงินของเนื้อโลหะตัดกับสีหลักของตัวกระบอก(มีให้เลือกสามสี เขียวเข้ม, น้ำเงินเข้ม และขาว) และรูปทรงส่วนบนของกระบอก หรือปากกระบอกที่ทำให้เว้าเข้า(แคบกว่าตัวกระบอก) เพื่อความสะดวกในการหยิบจับใช้งาน และเทเครื่องดื่ม โดย LocknLock Metro Edge Tumbler นี้มีราคาจำหน่ายเพียงใบละ 699 บาทเท่านั้น
• LocknLock Metro Mug รุ่นแนะนำตัวต่อมายังคงอยู่ที่แบรนด์ล็อคแอนด์ล็อค ซึ่งถือเป็นแบรนด์ที่มีธีมออกแบบสินค้าสไตล์มินิมอลเป็นธีมหลักอยู่แล้ว โดยเป็นในรุ่น locknlock metro mug กระบอกน้ำที่น่าจะตอบโจทย์คนที่ต้องการกระบอกทรงเตี้ย ซึ่งสามารถวางแมตช์กับของตกแต่งบนโต๊ะทำงานได้ดีกว่ากระบอกทรงสูง โดยตัวกระบอก metro mug มาพร้อมกับหูจับ สามารถใช้งานเป็นกึ่งแก้วได้ มีความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มได้ทั้งร้อนและเย็น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะใช้ชื่อรุ่นว่าเมโทรมัค ซึ่งอาจทำให้หลายคนเข้าใจว่าวัสดุกระบอกนั้นทำจากเซรามิค แต่ที่จริงแล้วตัวกระบอกทำจากวัสดุสแตนเลส และมีราคาจำหน่ายเพียงใบละ 599 บาทเท่านั้น
• Zojirushi Carry Tumbler SX-JA40 เมื่อพูดถึงกระบอกน้ำแบรนด์โซจิรูชิก็แน่นอนว่าโดยส่วนใหญ่แล้วหลายคนจะคุ้นเคยกับจุดเด่นเรื่องของคุณภาพในการเก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่ม ซึ่งถือเป็นแบรนด์เบอร์ต้นๆ ที่ได้รับคำชื่นชมในเรื่องนี้ ขณะที่ดีไซน์สินค้านั้นแม้ว่าจะเป็นดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย แต่ก็ดูเหมือนว่าสินค้าหลายๆรุ่นจะไม่ค่อยถูกจริตชาวมินิมอลยุคใหม่สักเท่าไหร่ ทว่ารุ่นที่เลือกมาแนะนำ ซึ่งก็คือ Zojirushi Carry Tumbler SX-JA40 นี้ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไม่กี่รุ่นที่มีดีไซน์มินิมอลแบบทันสมัยถูกใจมินิมอลลิสม์ยุคใหม่ โดยตัวกระบอกน้ำเลือกใช้โทนสีแบบพาสเทล มีให้เลือก 4 สีด้วยกัน ประกอบด้วย ฟ้าพาสเทล ชมพูพาสเล เขียวมิ้นท์พาสเทล และเขียวขี้ม้าพาสเทล รูปทรงกระบอกทรงสูง ความจุ4 ลิตร ด้านบนกระบอกมีหูหิ้วพกพาสะดวก ราคาจำหน่ายใบละ 975 บาท(โปรโมชั่นอาจขึ้นอยู่กับร้านตัวแทนจำหน่าย)

กระบอกน้ำนับว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญ หรือก็คือเป็นไอเท็มที่ติดตัวสำหรับใครหลายคนเลยทีเดียว แต่ละคนก็มีรสนิยมการใช้งานที่แตกต่างกัน บางคนชอบแบบที่เป็นกระบอกน้ำพลาสติก เพราะว่ามีราคาถูกกว่า ซื้อมาใช้งานได้หลายอัน ทำให้มีดีไซน์หรือรูปแบบที่ไม่ซ้ำกันมากมาย หรือบางคนอาจจะชอบแบบที่เป็นกระบอกน้ำสแตนเลส เพราะว่ามีความแข็งแรงและทนทานสูง นอกจากเรื่องของความชื่นชอบส่วนตัวแล้ว การใช้กระบอกน้ำยังถือเป็นเทรนด์การดูแลสุขภาพในปัจจุบัน ซึ่งหลายคนให้ความสำคัญกับเรื่องของเครื่องดื่มเป็นอย่างมาก นอกจากนี้แล้ว กระบอกน้ำหักเป็นรูปแบบสแตนเลส ยังมีคุณสมบัติที่สำคัญอีกอย่าง คือยังคงรักษาอุณหภูมิของเครื่องดื่มได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มร้อนหรือเครื่องดื่มเย็น จนบางคนเรียกมันว่ากระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิหรือแก้วน้ำเก็บความเย็นเลยทีเดียว

แต่ทว่า การที่จะเลือกหาซื้อสิ่งนี้มาใช้งาน อาจจะเกิดปัญหาจุกจิกมากมายหลากหลาย หนึ่งในปัญหาปัจจุบัน ที่พบเจอสำหรับการใช้งานอุปกรณ์ชนิดนี้ คือปัญหาการเก็บรักษาอุณหภูมิที่ไม่คงที่ หรือคุณภาพไม่เหมือนเดิมตอนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ เมื่อเรานำมันมาใช้งานสักระยะ บางคนอาจจะเจอปัญหาเมื่อผ่านการใช้งานมาแล้วประมาณหลักเดือน หรือบางคนอาจจะเป็นหลักปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกระบอกน้ำตั้งแต่ต้น

และในบทความนี้ เราจะพาคุณไปดูสาเหตุของปัญหาดังกล่าว ว่าเหตุใดกระบอกน้ำของเรา เมื่อเราใช้งานไประยะหนึ่ง มันกักเก็บอุณหภูมิได้ไม่เหมือนเดิม ทั้งอุณหภูมิร้อนและอุณหภูมิเย็น โดยปัญหาอาจเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้

เกิดรูรั่วที่ชั้นวัสดุภายใน

โดยทั่วไปแล้ว กระบอกน้ำที่สามารถกักเก็บอุณหภูมิได้ทั้งร้อนและเย็น หลายแบรนด์ในประเทศไทยใช้เทคนิคการผลิต โดยการสร้างพื้นที่สุญญากาศไว้ภายในชั้นวัสดุ หรือก็คือมีพื้นที่ว่างที่ไม่มีสสารได้ลงไปเลยข้างใน ไม่มีแม้กระทั่งอากาศที่อยู่ภายใน เพื่อป้องกันการถ่ายเทอุณหภูมิระหว่างอุณหภูมิภายในกระบอกน้ำกับอุณหภูมิภายนอก ทำให้อุณหภูมิของเครื่องดื่มที่บรรจุลงไปนั้นมีความคงที่และอยู่ได้เป็นระยะเวลานาน

แต่วัสดุที่ใช้ในการทำ มีเกรดและคุณภาพที่แตกต่างกันในแต่ละแบรนด์ การเลือกใช้วัสดุต่างๆ ในที่นี้ก็คืออลูมิเนียมเกรดต่ำ อาจจะนำมาซึ่งปัญหาการเสื่อมสภาพได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนเกิดรูรั่ววัสดุสุญญากาศนั้น หรือทำให้พื้นที่สุญญากาศดังกล่าวนั้นหายไป เมื่อใช้งานไปสักพัก อุณหภูมิที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดของเครื่องดื่มของเรา ที่บรรจุลงไปภายใน อาจจะเกิดการหดตัวได้ จนพื้นที่ ที่ถูกซีลไว้ ด้วยวัสดุทั้ง สอง ด้านนั้นเกิดเป็นรูรั่วขึ้นมา และไม่มีพื้นที่สุญญากาศอยู่ภายใน อุณหภูมิภายในกระบอกและภายนอกนั้นถูกถ่ายเทเข้าหากันได้ เราจึงสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน แต่เดิมมันเก็บรักษาอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี แต่เมื่อใช้งานไปเรื่อยๆ มันกลับมีการเปลี่ยนแปลงตรงนี้ไป

แม้ว่าภายนอกตัวกระบอกน้ำของเราจะไม่มีการชำรุด หรือเกิดการเสียหายได้เลยก็ตาม และเรายังคงใส่เครื่องดื่มของเราได้ตามปกติและไม่เกิดการรั่วซึมแต่อย่างใด แต่อุณหภูมิก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วฉับพลัน

อาจเกิดการตกหล่นจนมีรอยบุบ หรือรอยยุบ

นี่ก็เป็นอีกสาเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้บ่อยๆ คือการทำกระบอกน้ำของเราตกหล่นบ่อยๆ จนอาจจะทำให้วัสดุภายนอกของเราเกิดการบุบขึ้นมา ซึ่งแม้ว่าการบุกหรือการยุบของวัสดุภายนอก จะไม่ไปทำลายการเก็บรักษาอุณหภูมิของน้ำ กล่าวคือ เรายังคงใช้มันในการใส่เครื่องดื่มได้อย่างปกติ แต่ด้วยความที่วัสดุบริเวณที่บุบนั้นเข้าไปสัมผัสกับวัสดุชั้นในอีกด้าน ทำให้พื้นที่สุญญากาศนั้นหายไปด้วยเช่นเดียวกัน การถ่ายเทอุณหภูมิจึงเกิดขึ้นได้ด้วยเหมือนกัน

อย่างที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันหนึ่งในกระแสความนิยมที่มีผลต่อการเลือกใช้สินค้า หรือบริการของผู้บริโภคจำนวนมากก็คือกระแสความนิยมในไลฟ์สไตล์แบบมินิมอล หรือก็คือรูปแบบการใช้ชีวิตที่เน้นความเรียบง่าย และลดทอนดีไซน์ที่เกินความจำเป็นออกไป ซึ่งส่งผลให้แบรนด์ธุรกิจ ห้างร้านต่างๆ ต้องมีการปรับตัว โดยดีไซน์สินค้า ผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ๆของตนเองให้ออกมามีความมินิมอล แม้กระทั่งในแวดวงการออกแบบตกแต่งบ้าน อาคาร สถานที่ต่างๆ ก็ยังมีการนำแนวคิดแบบมินิมอลมาปรับใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ปัจจุบันเราจึงจะเห็นได้ว่ามีตัวเลือกสินค้า ผลิตภัณฑ์ดีไซน์แบบมินิมอลวางจำหน่ายอยู่มากมาย มีอาคาร ห้างร้านสไตล์มินิมอลที่พบเห็นได้ทั่วไป เช่นเดียวกับในแวดวงการตลาดที่สินค้าพรีเมี่ยมในแคมเปญการตลาดของแบรนด์ บริษัทต่างๆ นิยมเลือกใช้ดีไซน์แบบมินิมอลกับสินค้ายอดฮิตหลายชิ้นไม่ว่าจะเป็น กระบอกน้ำ ร่ม ถุงผ้า เสื้อยืด ฯลฯ แทนที่ดีไซน์ยอดนิยมแบบเดิมๆ เพื่อให้ตัวสินค้ามีความแมตช์กันกับกระแสมินิมอลไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค และได้ประสิทธิผลทางการตลาดที่ดีขึ้น ในบทความนี้จึงได้เลือกเอาเทรนด์การออกแบบสินค้าอย่างกระบอกน้ำ หนึ่งในสินค้าพรีเมี่ยมยอดนิยมมาแนะนำให้หลายคนได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกออกแบบสินค้าพรีเมี่ยมสักชิ้นให้แมตช์กับยุคสมัยและกระแสความนิยมของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในปัจจุบัน
กระบอกน้ำโลหะ หรือกระบอกน้ำสแตนเลสดีไซน์เรียบหรู ดีไซน์แรกที่แมตช์กันได้ดีกับกระแสมินิมอลไลฟ์สไตล์ก็คือกระบอกน้ำโลหะจากวัสดุอย่างอลูมิเนียม หรือสแตนเลสในดีไซน์เรียบหรูนั่นเอง ซึ่งข้อดีของดีไซน์ดังกล่าวนี้ก็คือประโยชน์การใช้งานที่ครอบคลุมกับความต้องการบรรจุเครื่องดื่มแบบต่างๆ เพราะวัสดุโลหะนั้นสามารถบรรจุเครื่องดื่มได้ทั้งร้อน และเย็น เป็นทั้งกระบอกน้ำ หรือแก้วน้ำเก็ความเย็น โดยที่มีความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิได้ในระดับหนึ่งอีกด้วย(ขึ้นอยู่กับนวัตกรรมในการผลิต เช่น ระบบสุญญากาศของตัวกระบอกน้ำ ความหนาของวัสดุที่ใช้ในการผลิต) แต่หากมองในแง่ของการทำเป็นสินค้าพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ แจก แถมให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ก็ต้องบอกว่ามีข้อเสียอยู่บ้างเหมือนกัน ซึ่งก็คือในเรื่องของต้นทุน เพราะวัสดุอย่างอลูมิเนียม สแตนเลส ย่อมมีราคาสูงกว่าวัสดุพลาสติกพอสมควรเลยทีเดียว
กระบอกน้ำโทนสีพาสเทล เมื่อพูดถึงดีไซน์แบบมินิมอล โดยทั่วไปแล้วหลายคนมักจะนึกถึงดีไซน์เรียบๆ โทนสีเรียบๆ ไม่ฉูดฉาด เช่น สีขาว ดำ เทา หรือสีธรรมชาติของวัสดุประเภทต่างๆ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้วสีสันสดใส หรือเฉดสีฉูดฉาดต่างๆ ก็สามารถปรับใช้ร่วมกับดีไซน์แบบมินิมอลได้อย่างตัวเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการใช้เทคนิคลดความฉูดฉาด หรือความสว่างของสีด้วยการผสานสีขาวเข้ากับเฉดสีที่ต้องการใช้งาน หรือก็คือการเลือกใช้โทนสีพาสเทลนั่นเอง หนึ่งในดีไซน์กระบอกน้ำแบบมินิมอลไลฟ์สไตล์ที่เลือกมาแนะนำกันจึงเป็นกระบอกน้ำโทนพาสเทล โดยอาจเป็นกระบอกโลหะ หรือพลาสติกก็ได้ และเลือกใช้ฟอนต์ตัวเขียนสีดำ หรือสีขาวในการพิมพ์ชื่อแบรนด์ หรือข้อความที่ต้องการสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ก็จะให้ดีไซน์ที่มีความเป็นมินิมอลแบบทันสมัยยิ่งขึ้น นับเป็นหนึ่งในดีไซน์ที่โดนใจชาวมินิมอลรุ่นใหม่ วัยรุ่นวัยเรียน
กระบอกน้ำพลาสติกใส อีกหนึ่งดีไซน์แบบมินิมอลไลฟ์สไตล์ที่เลือกมาแนะนำปิดท้ายกันในวันนี้ก็คือ กระบอกน้ำพลาสติกใสแบบเรียบง่ายนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นดีไซน์ที่มีความมินิมอลในตัวเองอยู่แล้ว และยังมีข้อดีเรื่องของต้นทุนราคาสั่งผลิตโดยเฉลี่ยที่ต่ำกว่ากระบอกน้ำดีไซน์อื่นๆ จึงค่อนข้างเหมาะสำหรับใช้เป็นของพรีเมี่ยมในกิจกรรมการตลาดที่มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจำนวนมาก แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ก็มีข้อเสียอยู่นิดหนึ่งในเรื่องของการใช้งานที่ตัวกระบอกไม่สามารถบรรจุเรื่องดื่มร้อนได้นั่นเอง