พลาสติกนับว่าเป็นสิ่งที่เข้ามามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมาก ต่อชีวิตประจำวันของเรา ในยุคหนึ่งสิ่งนี้สามารถนำมาทดแทนวัสดุธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนิยมมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายทั่วโลก ในการทำกระบอกน้ำเช่นเดียวกัน เราเห็นกระบอกน้ำรูปแบบพลาสติกออกมาให้เราใช้งานเป็นจำนวนมาก และเป็นวัสดุหนึ่งที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นวัสดุที่สามารถขึ้นรูปได้ง่าย ทำออกมาได้มีความหลากหลาย และมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ กระบอกน้ำพลาสติก แก้วเชค แก้วปั่น Auto ยังสามารถที่จะพกพาไปไหนมาไหนได้ง่าย ทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้งานเป็นอย่างมาก

ดังนั้นด้วยเหตุนี้ในวันนี้เอง เราจะมาชวนคุณคุยในเรื่องของพลาสติก ที่ใช้ในการทำกระบอกน้ำพลาสติก จะมีอะไรบ้าง และมีเกรดไหน เพื่อที่คุณจะได้ใช้ในการตัดสินใจ ในการเลือกวัสดุอย่างพลาสติกมาทำเป็นกระบอกน้ำพลาสติก

ก่อนอื่นเราจะต้องมาทำความเข้าใจ และทำความรู้จักเกี่ยวกับประเภทของพลาสติกก่อน พลาสติกนั้นมีกี่ประเภทกันแน่ แต่ละประเภทเป็นอย่างไร และใช้ทำอะไรบ้างในอุตสาหกรรมต่างๆที่แตกต่างกัน โดยปกติแล้วเราจะแบ่งพลาสติกออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆ คือเทอร์โมพลาสติก และเทอร์โมเซตติงพลาสติก

เทอร์โมพลาสติก

เทอร์โมพลาสติก หรือที่เราเรียกกันว่าเรซิ่น เป็นพลาสติกที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายที่สุดในโลก คุณสมบัติที่โดดเด่นคือ เมื่อได้รับความร้อน พลาสติกประเภทนี้จะมีการอ่อนตัว และเมื่อเย็นตัวลง จะมีการแข็งตัว สามารถที่จะเปลี่ยนรูปร่างได้ พลาสติกประเภทนี้มีโครงสร้างโมเลกุลเป็นสตูตรงยาว มีการเชื่อมต่อระหว่างโซ่พอลิเมอร์น้อยมาก จึงสามารถที่จะล้มเหลวได้ และเมื่อผ่านการอัดแรง จะไม่ทำลายโครงสร้างเดิม ตัวอย่างเช่น โพลีเอทิลีน โพลีสไตรีน เหล่านี้มีคุณสมบัติคือ เมื่อนำมาหลอมแล้ว จะสามารถนำมาขึ้นรูปกลับมาใช้ใหม่ได้ ซึ่งพลาสติกแบบเทอร์โมพลาสติกเหล่านี้ ส่วนมากแล้วจะนำมาทำกระบอกน้ำพลาสติกนี่เอง

เทอร์โมเซตติงพลาสติก

เทอร์โมเซตติงพลาสติก เป็นพลาสติกที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือสามารถที่จะทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และค่อนข้างที่จะทนต่อปฏิกิริยาเคมีได้ดี เป็นพลาสติกที่จะเกิดคราบ และรอยเปื้อนได้ค่อนข้างยาก และจะคงรูปหลังจากการผ่านความร้อนหรือแรงดันเพียงแค่ครั้งเดียว เมื่อเย็นตัวลงแล้ว จะมีลักษณะที่แข็งมาก และจะมีความทนต่อความร้อนและความดัน ไม่มีการอ่อนตัวและเปลี่ยนแปลงรูป แต่ถ้าอุณหภูมิสูงจนเกินไป ก็อาจจะทำให้แตกและเกิดการไหม้เป็นขี้เถ้าสีดำได้ พลาสติกชนิดนี้มีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลที่แข็งแรงมาก จึงไม่สามารถที่จะนำมาหลอมเหลวได้ ไม่สามารถที่จะทำให้อ่อนได้โดยใช้ความร้อน แต่หากความร้อนถึงในระดับหนึ่ง จะเกิดการสลายตัวในทันที การทำพลาสติกชนิดนี้ให้เป็นรูปลักษณ์ต่างๆ จำเป็นที่จะต้องใช้ความร้อนสูง และมักจะต้องอาศัยแรงอัดด้วย

และนี่ก็คือ 2 ประเภทหลักของพลาสติก ซึ่งอย่างที่บอกไปแล้วว่า พลาสติกที่เรามักจะนำมาทำเป็นกระบอกน้ำพลาสติก หรือกระบอกน้ำสำหรับการเป็นของพรีเมี่ยมนั้น พลาสติกที่นำมาใช้จะเป็นแบบเทอร์โมพลาสติก ซึ่งมีคุณสมบัติโดดเด่นคือค่อนข้างที่จะมีความอ่อนตัวได้ และสามารถนำมาขึ้นรูปได้ง่าย และสิ่งที่สำคัญก็คือ สามารถนำมารีไซเคิลได้ด้วย ซึ่งในปัจจุบันนี้ วัสดุพลาสติกถือเป็นสิ่งที่ทั่วโลกค่อนข้างที่จะกังวล หากเป็นเทอร์โมพลาสติก ที่สามารถนำมารีไซเคิล หรือนำกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างง่ายดายและสะดวกกว่า ก็น่าจะดีมากกว่าในแง่ของการรักษาโลก สำหรับกระบอกน้ำ ที่เป็นสิ่งของที่ได้รับความนิยมสูงไม่ว่าจะเป็นการซื้อมาใช้งานเอง หรือการนำมาทำเป็นกระบอกน้ำพรีเมี่ยม การรู้จักพลาสติกแต่ละประเภทเป็นสิ่งที่ดีเลยทีเดียว

กระบอกน้ำที่เราใช้งานอยู่นั้น มีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบ ซึ่งส่วนมากจะแบ่งประเภทตามวัสดุหลักที่ใช้ในการผลิต มีตั้งแต่แบบที่ค่อนข้างได้รับความนิยมอย่างแบบกระบอกน้ำสแตนเลส แบบที่เป็นกระบอกน้ำอลูมิเนียม หรือที่เป็นแก้วน้ำเก็บความเย็น และอีกแบบที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันเลย คือกระบอกน้ำพลาสติก ถึงแม้จะไม่ใช่ในรูปแบบที่ดีที่สุด แต่ก็สามารถออกแบบ และทำออกมาให้มีความหลากหลายได้มากที่สุด มีลวดลายและสีสันที่สวยงาม มีให้เลือกมากมาย และมักจะถูกนำไปแจกจ่าย และจัดทำเป็นของพรีเมี่ยมได้แบบง่ายๆ เนื่องจากว่าใครก็ใช้กระบอกน้ำด้วยกันทั้งนั้น ดังนั้นสิ่งนี้จึงค่อนข้างจะเป็นประโยชน์ กับผู้ที่ได้รับไปอย่างแน่นอน

แต่ถึงจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก ซึ่งในปัจจุบันนี้ ผู้คนหันมาใส่ใจและให้ความสำคัญกับในเรื่องของสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น ดังนั้น พลาสติกที่นำมาใช้ในการทำกระบอกน้ำ ปัจจุบันหลายคนจึงมองเป็นพลาสติกที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ ซึ่งวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องพลาสติกรีไซเคิลนี่เอง มันมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายประเภท แต่ละประเภทก็จะมีความแตกต่างกันออกไป และมีสัญลักษณ์ ที่ถูกกำหนดโดยสมาคมอุตสาหกรรมพลาสติกแห่งสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เราอาจจะเคยเห็นสัญลักษณ์ลูกศร 3 ตัววนเป็นรูปสามเหลี่ยม และในวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องนี้ วัสดุสำคัญที่นำมาใช้ในการทำกระบอกน้ำพลาสติกของเรา

โดยปกติทั่วไปแล้ว พลาสติกรีไซเคิลที่นำมาใช้ในการทำกระบอกน้ำพลาสติก หรือใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความเกี่ยวข้องกับพลาสติกอื่นๆมากมาย จะสามารถแบ่งแยกย่อยออกมาได้ 7 ประเภทดังนี้

โพลีเอทิลีนเทเรฟทาเลต

หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ PET หรือ PETE เป็นพลาสติกที่มีลักษณะใส แข็ง และทนต่อแรงกระแทกได้ดี ไม่เปราะหรือแตกหักง่าย และกันแก๊สซึมผ่านได้ ส่วนมากแล้วจะใช้ทำขวดบรรจุน้ำดื่ม หรืออาจจะเป็นขวดน้ำมันพืช ซึ่งสามารถนำมารีไซเคิลเป็นเส้นใย สำหรับทำเสื้อกันหนาว หรือใยสังเคราะห์ได้

โพลีเอธิลีนความหนาแน่นสูง

หรือรู้จักกันดีในชื่อ HDPE เป็นพลาสติกที่เหนียวและแตกยาก ค่อนข้างจะแข็งแต่ก็ยืดได้มาก ค่อนข้างจะทนต่อสารเคมีและสามารถขึ้นรูปได้ง่าย ส่วนมากใช้ในการทำขวดนม ขวดน้ำ และบรรจุภัณฑ์สำหรับน้ำยาทำความสะอาด สามารถนำมารีไซเคิลเป็นขวดน้ำมันเครื่อง ลังพลาสติก หรือท่อได้

โพลีไวนิลคลอไรด์

หรือที่รู้จักกันในชื่อ PVC แน่นอนว่าใช้ในการทำท่อน้ำประปา สายยางใสแผ่นฟิล์มสำหรับห่ออาหาร หรือแผ่นพลาสติกสำหรับในการทำประตู หน้าต่าง หรือใช้ในการทำหนังเทียม อีกทั้งยังสามารถนำมารีไซเคิลเป็นท่อน้ำประปา หรือรางน้ำสำหรับทำการเกษตร กรวยจราจร เฟอร์นิเจอร์ ตลับเทป เคเบิล ม้านั่งพลาสติก หรือแผ่นไม้เทียมเป็นต้น

โพลีเอธิลีนความหนาแน่นต่ำ

หรือรู้จักกันในชื่อ LDPE เป็นพลาสติกที่มีความนิ่ม มีความเหนียว สามารถที่จะยืดตัวได้มาก มีลักษณะใส แต่ก็มีความทนทาน ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทนต่อความร้อนมากนัก ส่วนมากจะใช้ในการทำฟิล์มห่ออาหาร หรือหอของ ใส่ถุงขนมปัง ถุงเย็นสำหรับบรรจุอาหาร สามารถที่จะนำมารีไซเคิลเป็นถุงดำใส่ขยะ ถุงหูหิ้ว ถังขยะ กระเบื้องปูพื้น หรือเฟอร์นิเจอร์บางอย่างได้ด้วย

โพลีโพรพิลีน

หรือรู้จักกันในชื่อ PP เป็นพลาสติกที่มีลักษณะใส ทนต่อความร้อนได้สูง สามารถคงรูปได้ และทนต่อแรงกระแทกได้ดี นอกจากนี้ยังทนต่อสารเคมี และทนต่อน้ำมันด้วย ใช้ในการทำภาชนะบรรจุอาหาร หรือกระบอกใส่น้ำแช่เย็น สามารถนำมารีไซเคิลเป็นกล่องแบตเตอรี่รถยนต์ หรือชิ้นส่วนรถยนต์บางชิ้นส่วน

โพลีสไตรีน

หรือรู้จักกันในชื่อ PS เป็นพลาสติกที่มีความใส แต่เปราะและแตกหักได้ง่าย ส่วนใหญ่จะทำภาชนะในการบรรจุของใช้ หรือโฟมใส่อาหาร สามารถนำมารีไซเคิลเป็นไม้แขวนเสื้อ ไม้บรรทัด กระเปาะเทอร์โมมิเตอร์ หรือฉนวนกันความร้อนได้

แบบอื่นๆ

แบบอื่นๆ ก็คือพลาสติกที่ไม่ได้ถูกระบุไว้ในทั้งหมดนี้ แต่ก็สามารถที่จะนำมาหลอมแล้วรีไซเคิลได้

ถ้าให้นึกถึงแบรนด์กระบอกน้ำคุณภาพดีที่น่าเลือกซื้อเลือกหามาใช้งาน แน่นอนว่าหลายคนอาจจะนึกถึงแบรนด์ชื่อดังที่มีชื่อเสียงมายาวนานอย่าง Yeti(เยติ) Stanley(สแตนลี่) หรือ Seagull(ซีกัล) ซึ่งปัจจุบันก็ยังถือว่าเป็นแบรนด์ตัวเลือกมาตรฐานที่ผู้บริโภคจำนวนมากในบ้านเราให้ความไว้วางใจ ไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำสแตนเลส รวมไปถึงแก้วน้ำเก็บความเย็น แต่ขณะเดียวกันหากว่ากันที่กระแสความนิยมปัจจุบันก็ยังมีแบรนด์ตัวเลือกอื่นที่น่าสนใจอีกหลายแบรนด์ที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์กระบอกน้ำของตัวเองออกมาให้มีหน้าตาดีไซน์ถูกใจผู้บริโภคยุคใหม่ และมีคุณภาพการใช้งานที่น่าพึงพอใจเช่นกัน ซึ่งในบทความนี้เองได้คัดเอาแบรนด์กระบอกน้ำยอดนิยมในปี 2023 มาแนะนำให้ได้ทราบกัน พร้อมจุดเด่นและข้อดีของแต่ละแบรนด์ที่ทำให้ลูกค้า หรือผู้บริโภครู้สึกประทับใจ
LockNLock หากย้อนไปสักสิบปี แน่นอนว่าชื่อแบรนด์ล็อคแอนด์ล็อคอาจไม่ได้เป็นที่รู้จัก หรือคุ้นหูผู้บริโภคสักเท่าไหร่ แต่ปัจจุบันถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ผลิตภัณฑ์กระบอกน้ำรูปแบบต่างๆ ที่มาแรงที่สุดเลยก็ว่าได้ ซึ่งจุดเด่นของแบรนด์ LockNLock ที่ทำให้ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคยุคใหม่ก็คือเอกลักษณ์ดีไซน์แบบมินิมอลนั่นเอง โดยกระบอกน้ำรุ่นต่างๆ และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของล็อคแอนด์ล็อคนั้นมีความเป็นมินิมอลอย่างชัดเจน เน้นการออกแบบที่เรียบง่าย เลือกใช้รูปทรงมาตรฐานเป็นหลัก และใช้สีสันแบบพาสเทล ทำให้ธีมโดยรวมของผลิตภัณฑ์ดูเรียบง่ายสบายตาแมตช์กับกระแสความนิยมของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ขณะเดียวกันในความเรียบง่ายของหน้าตาดีไซน์ก็มาพร้อมกับรุ่นผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานตัวสินค้าของผู้บริโภคที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม โดยแม้ว่ารูปทรงกระบอกน้ำจะเน้นใช้รูปทรงมาตรฐานเป็นหลัก แต่ก็มีการดีไซน์ขนาด และความจุออกมาหลากหลาย มีทั้งกระบอกน้ำความจุ 300 ML, 400 ML, 500 ML, 600 ML กระบอกน้ำทรงสูง ทรงเตี้ย เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ออกผลิตภัณฑ์กระบอกน้ำได้ครอบคลุมความต้องการใช้งานของผู้บริโภคมากที่สุดแบรนด์นึงก็ว่าได้ นอกจากนี้ล็อคแอนด์ล็อคยังมีจุดเด่นในเรื่องการทำตลาดออนไลน์ที่ทันยุคทันสมัย มีการโปรโมทผลิตภัณฑ์ตัวเองผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ และมีสโตร์ทางการสำหรับจำหน่ายสินค้าตัวเองบนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์เจ้าดังต่างๆ ให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อเลือกหาสินค้าได้อย่างสะดวก LockNLock จึงได้กลายเป็นอีกแบรนด์ยอดนิยมที่ผู้บริโภครู้จัก และคุ้นหูคุ้นตามากขึ้นในปี 2023 นี้
Zojirushi ชื่อแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่นอย่างโซจิรูชิ อาจจะไม่ได้เริ่มต้นด้วยความป๊อปปูล่าร์เหมือนแบรนด์ยักษ์ใหญ่หลายแบรนด์ แต่ด้วยความคงเส้นคงวาในการรักษาคุณภาพผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณสมบัติการเก็บรักษาอุณหภูมิของกระบอกน้ำรุ่นต่างๆ ที่มีมาตรฐานเทียบได้กับแบรนด์ดังระดับโกลบอล จึงทำให้เกิดการบอกต่อปากต่อในหมู่ผู้บริโภค ซึ่งในปี 2023 นี้ก็เช่นกัน กระบอกน้ำแบรนด์โซจิรูชิยังคงได้รับคำชื่นชมเรื่องคุณภาพการเก็บรักษาอุณหภูมิเครื่องดื่มที่ทำได้ยาวนานหลายชั่วโมง จึงถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์กระบอกน้ำยอดนิยมในปี 2023 ทั้งนี้ดีไซน์ผลิตภัณฑ์ของโซจิรูชินั้นมีความเรียบง่ายในแบบฉบับญี่ปุ่น เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ให้ความรู้สึกมินิมอลเช่นเดียวกับล็อคแอนด์ล็อค ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกันแล้วอาจบอกได้ว่าล็อคแอนด์ล็อคเป็นมินิมอลแบบร่วมสมัย ส่วนโซจิรูชิเป็นมินิมอลแบบเอกลักษณ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นก็ว่าได้ ส่วนราคาจำหน่ายกระบอกน้ำแต่ละรุ่นของ Zojirushi มีราคาจำหน่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท อาจจะดูเป็นราคาที่สูงพอสมควรเมื่อเทียบกับหลายแบรนด์ แต่หากเทียบความคุ้มค่าจากฟีดแบ็กผู้บริโภคแล้วก็ถือว่าเป็นระดับราคาที่คุ้มค่ามากทีเดียว

กระบอกน้ำที่เราเห็นวางขายกันอยู่ในท้องตลาด หรือแม้แต่ที่ถูกทำเป็นของแจก หรือแม้แต่จะเป็นของพรีเมี่ยมก็ตาม มักจะถูกทำด้วยวัสดุที่มากมายและหลากหลายแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก กระบอกน้ำอลูมิเนียม และที่เห็นว่าได้รับความนิยมมากที่สุดอย่างหนึ่ง ก็เห็นจะเป็นวัสดุอย่างสแตนเลส ซึ่งถือว่าค่อนข้างที่จะได้รับความนิยมอย่างมากเลยทีเดียว

ดังนั้นในวันนี้ เราจะชวนคุณมาเจาะลึก ว่ามีเรื่องน่ารู้อะไรบ้าง ที่คุณอาจจะพลาดไปเกี่ยวกับการซื้อกระบอกน้ำสแตนเลส วัสดุอย่างสแตนเลสมีข้อดี และข้อได้เปรียบซึ่งวัสดุอื่นไม่มีอย่างไร สแตนเลสที่นำมาใช้ในการทำเป็นอย่างไร หรือแม้กระทั่งปัญหาที่เราอาจจะพบได้

สแตนเลสที่เราใช้ในการทำ

โดยปกติแล้ว สแตนเลสที่ใช้ในการทำกระบอกน้ำนั้น แบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เราจะเรียกกันว่า สแตนเลสตระกูล 300 ซึ่งมีอยู่ด้วยกันมากมายหลากหลายรูปแบบด้วยกัน สแตนเลสกลุ่มนี้จะเพิ่มธาตุนิกเกิลผสมเข้ากับเหล็ก ทำให้องค์ประกอบของสแตนเลสนั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างภายใน สิ่งนี้ทำให้สแตนเลสกลุ่มนี้ จะไม่ตอบสนองกับแรงดูดของแม่เหล็ก เมื่ออยู่ในสภาพปกติ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสภาพบางอย่างเช่น การตัด การเชื่อม หรือการปั๊มขึ้นรูป จะทำให้บริเวณที่เกิดการกระทำดังกล่าว เกิดปฏิกิริยาการตอบสนองกับแม่เหล็กได้

สแตนเลสตระกูลนี้ มีการใช้งานในลักษณะทั่วไปอย่างแพร่หลาย ส่วนผสมก็แตกต่างออกไปขึ้นอยู่กับสแตนเลสว่าเป็นเกรดได้ ข้อดีของสแตนเลสตระกูลนี้ที่เห็นได้ชัด คือมีความสามารถในการขึ้นรูปที่ดีมาก อีกอย่างยังมีความปลอดภัยเมื่อนำมาทำเป็นบรรจุภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเครื่องดื่มและอาหาร รวมถึงนำมาใช้ในการทำอุปกรณ์การแพทย์มากมายหลากหลายด้วยเช่นเดียวกัน

กระบอกน้ำสแตนเลสจะขึ้นสนิมได้หรือไม่

หากเราคุยกันแค่นี้ ว่ากระบอกน้ำสแตนเลสสามารถขึ้นสนิมได้หรือไม่ คำตอบที่ชัดเจนและง่ายดายมากที่สุด คือมันสามารถที่จะเกิดสนิมได้เช่นเดียวกัน แต่นั้นก็ต้องเป็นในกรณีที่มันถูกกรดหรือด่าง หรือถูกไอระเหยของกรดและด่าง และต้องถูกในปริมาณที่มากด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะพบได้มาก คือการเกิดสนิมในผลิตภัณฑ์สแตนเลสที่เป็นเกรด 304

ปัญหาที่เราจะพบก็อย่างเช่น การใช้น้ำยาล้างห้องน้ำที่มีกรดไฮโดรคลอริก ลาดลงไปในอุปกรณ์ของเราโดยตรง หรืออาจจะเกิดจากไอระเหย เมื่อมีการราดน้ำยาล้างห้องน้ำทิ้งไว้ หรืออาจเกิดขึ้นได้จากการติดตั้งอุปกรณ์ในพื้นที่ที่มีการก่อสร้าง และในงานมีการใช้ปูนซีเมนต์ ละอองของผงปูน หรือน้ำปูนที่ใช้ในการทำงาน เมื่อมันมากระทบหรือเกาะพื้นผิวของกระบอกน้ำสแตนเลสของเราเป็นเวลานาน แน่นอนว่าอาจทำให้เกิดสนิมได้

หรืออาจเกิดจากแหล่งน้ำที่ใช้เป็นน้ำบาดาล ซึ่งจะทำให้เกิดคราบของน้ำ หรือตะกรันเกาะพื้นผิวสแตนเลสของเรา เพราะน้ำบาดาลนั้น จะมีส่วนผสมของสารละลายหินปูน และสนิมเหล็กจำนวนมากที่จะไปปะปนอยู่ในน้ำ และอีกปัญหาที่มาพบได้บ่อยๆ คือการใช้อุปกรณ์ในพื้นที่ติดน้ำทะเล หรือในพื้นที่ที่มีไอเค็มจากน้ำทะเลเกิดขึ้น

วิธีการแก้ไขคราบที่เกิดขึ้น

วิธีช่างแสนง่ายดาย ให้เราใช้น้ำสะอาด ทำการล้างน้ำยา หรือละอองเหล่านั้นออกจากกระบอกน้ำของเราให้หมด หลังจากนั้นให้เราทำการใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้ง เพื่อป้องกันการเกิดสนิม หากเกิดคราบน้ำขึ้น เราอาจที่จะใช้สก๊อตไบรท์หนุ่มๆ ทำการขัดพื้นผิว และให้ขัดตามแนวขวาง ตามผิวด้านเดิมของตัวกระบอกน้ำ และหากมีคราบจำนวนมากและมีการฝังแน่นเกิดขึ้น ให้เราใช้น้ำส้มสายชูช่วยในการขัด แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด จากนั้นใช้ผ้านุ่มทำการเช็ดให้แห้ง

ในแต่ละปีนั้น มีขยะซึ่งเป็นขยะพลาสติกที่ไม่สามารถที่จะทำลายได้ง่ายๆ เพียงแค่ในประเทศไทยเราอยู่ที่ปีละกว่า 2 ล้านตันเลยทีเดียว ซึ่งนับว่าเป็นปริมาณขยะที่เยอะเอามากๆ ซึ่งขยะเหล่านี้ เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของการเกิดภาวะโลกร้อน พลาสติกซึ่งเป็นปัญหาหลัก และกลายเป็นหนึ่งในขยะหลักที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ มักจะนิยมใช้บรรจุภัณฑ์แบบใช้แล้วทิ้ง หรือไม่ก็เป็นบรรจุภัณฑ์ที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ อย่างพวกขวดน้ำพลาสติก

ด้วยเหตุนี้การพกกระบอกน้ำ ไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำรูปแบบกระบอกน้ำสแตนเลส แก้วน้ำเก็บความเย็น หรือแม้แต่แบบกระบอกน้ำพลาสติก ซึ่งเป็นพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ แบบนี้นอกจากจะช่วยในเรื่องของความสะดวกสบายของผู้คน พกกระบอกน้ำเพื่อความสวยงามแล้ว ยังสามารถช่วยในเรื่องของการรักษาธรรมชาติได้มากในระดับนึงด้วย เพราะสิ่งนี้เป็นของที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ที่สำคัญ การที่เราพกกระบอกน้ำ 1 ใบ มันสามารถที่จะลดปริมาณขยะที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ หรือขวดน้ำแบบใช้แล้วทิ้งได้หลายร้อยชิ้นเลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้เอง เพราะเราจึงควรพกกระบอกน้ำดีๆ ไว้สักใบ หรืออาจจะเป็นหลายใบก็ได้

อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ว่าการพกพากระบอกน้ำนั้น เป็นสิ่งที่ค่อนข้างมีความสำคัญกับเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากในชีวิตของเรามีการเดินทาง และการทำงานอยู่เสมอ การมีอุปกรณ์สำคัญชิ้นนี้เป็นของตัวเอง นอกจากจะเพิ่มความสะดวกสบาย ทำให้เราสบายใจที่จะดื่มน้ำสะอาดได้มากยิ่งขึ้น สิ่งนี้ยังสามารถนำมาใช้งานในระยะยาว ซึ่งแน่นอนว่าส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อม

ถึงแม้ว่าจะเป็นกระบอกน้ำรูปแบบพลาสติกก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง อย่าลืมว่าแม้แต่พลาสติกเอง ก็มีอยู่ด้วยกันมากมายหลายเกรด มีกระทั่งกรีซที่สามารถนำมารีไซเคิลได้มาก ดังนั้นท้ายที่สุดแล้ว อยู่ที่ว่าเราเลือก ว่าจะนำพลาสติกแบบไหนมาใช้งาน

เหนือสิ่งอื่นใดในวันนี้ เรามีวิธีการบางอย่างมานำเสนอ ซึ่งเป็นวิธีการการใช้กระบอกน้ำ ไม่ว่าจะเป็นแบบพลาสติก หรือแบบที่ทำมาจากวัสดุอื่นเอง ว่าเราจะสามารถนำมันมาใช้งานอย่างไร เพื่อที่จะช่วยในการรักษาธรรมชาติ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

พกพาไปใช้ในทุกกิจกรรม

เราสามารถที่จะนำกระบอกน้ำของเรา นำมาใช้งานได้ในทุกที่ ทุกเวลา ทุกกิจกรรมที่เราทำ ไม่ว่าจะเป็นการไปทำงาน ไปโรงเรียน หรือเราอาจจะใช้ในการเดินทางไปไหนมาไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในยุคที่ผู้คนหันมาให้ความสนใจในเรื่องของสุขภาพ และของใช้ส่วนตัวมากยิ่งขึ้น การพกพาสี่นี่จึงถือเป็นทางเลือกที่ดี เพราะอย่างน้อยเราก็มั่นใจ ว่าน้ำที่เราดื่มจะปลอดภัย นอกจากส่งผลดีต่อเรา ยังส่งผลดีต่อคนรอบตัวของเราอีกด้วย

นอกจากนี้มันยังช่วยในการประหยัดเงินในกระเป๋าของเราได้เป็นอย่างดี เราจะลดการซื้อน้ำ แบบบรรจุขวดพลาสติกที่เราใช้แล้วทิ้ง สิ่งนี้นับเป็นข้อดี หากใครมีกระบอกน้ำโปรดอยู่แล้ว ลองหยิบมันมาใช้งานดู พยายามนำมันมาใช้งานทุกกิจกรรมมากที่สุดเท่าที่ทำได้ มันจะช่วยในการลดโลกร้อนมากเลยทีเดียว

ร้านกาแฟบางร้าน มีส่วนลดการนำกระบอกน้ำมาเอง

สิ่งนี้นับว่าเป็นกลยุทธ์การตลาดที่ดี และเหมาะสมอย่างยิ่งเลยทีเดียว กับร้านกาแฟบางร้าน ที่หากเรานำเอากระบอกส่วนตัวของเรามาเอง อาจจะเป็นส่วนลดค่ากาแฟ หรือค่าเครื่องดื่ม เป็นการจัดโปรโมชั่น ที่ได้ประโยชน์ทั้งตัวธุรกิจหรือร้านค้าเอง และตัวผู้บริโภคก็ได้ประโยชน์ด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นกลยุทธ์นี้จึงน่าสนใจ และผู้บริโภคน่าหามาใช้งานดู

ปัจจุบันกระบอกน้ำถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไอเทมสามัญที่หลายคนต้องมีพกติดตัวไว้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการพกไว้ใช้งานส่วนตัวภายในบ้าน ที่อยู่อาศัย พกพาไว้ใช้งานนอกสถานที่ ในออฟฟิศ หรือขณะเดินทาง เนื่องจากตลอดหลายปีที่ผ่านมามีกระแสรณรงค์จากสื่อต่างๆ รวมถึงการพูดกันปากต่อปากถึงข้อดีของการพกพากระบอกน้ำไว้ใช้งานส่วนตัวเรื่อยๆ อาทิเช่น ประโยชน์เรื่องของการลดการใช้งานพลาสติกประเภทใช้ชั่วคราวอย่างแก้วกาแฟ แก้วหรือกระบอกน้ำพลาสติกใส ซึ่งส่งผลต่อไปถึงการช่วยลดภาวะโลกร้อน ประโยชน์ด้านสุขอนามัยที่ดีขึ้น ลดความเสี่ยงด้านสุขภาพจากการใช้แก้วร่วมกับผู้อื่น ประโยชน์ด้านการเก็บความร้อน-เย็นของเครื่องดื่มให้คงที่ได้เป็นระยะเวลานานสำหรับกระบอกน้ำบางรุ่นที่มีคุณสมบัติรักษาอุณหภูมิได้ เช่นกระบอกน้ำสแตนเลส หรือแก้วเก็บความเย็น เป็นต้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าการพกพากระบอกน้ำสักใบไว้ใช้งานส่วนตัวนั้นดูจะมีประโยชน์มากมายดังกล่าว โดยเฉพาะในแง่ของการดูแลสุขภาพ และสุขอนามัย แต่ในการใช้งานจริงหากไม่มีการดูแลทำความสะอาดอย่างถูกวิธีก็ต้องบอกว่ากระบอกที่เราพกพาไว้ใช้งานส่วนตัวนั้นอาจจะไม่ได้ช่วยให้เรามีสุขอนามัยที่ดีขึ้นสักเท่าไหร่ ตรงกันข้ามอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพด้วยซ้ำ ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำวิธีดูแลทำความสะอาดกระบอกน้ำประเภทต่างๆ ที่ถูกต้องให้ได้ทราบกัน
ล้างทำความสะอาดอย่างน้อยวันละครั้ง โดยปกติแล้วเพื่อสุขอนามัยที่ดีเราควรล้างกระบอกน้ำทุกครั้งก่อนการบรรจุเครื่องดื่มใหม่ลงไปทดแทนเครื่องดื่มเดิมที่ดื่มหมดแล้ว แม้ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทเดียวกันก็ตาม เพราะระหว่างการเปิดฝากระบอก และเทเครื่องดื่มใดๆ ใส่ลงไปอาจมีสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคใดๆปะปนลงไปได้ แต่ทว่าด้วยไลฟ์สไตล์ หรือวิถีชีวิตระหว่างของแต่ละคนที่อาจไม่เอื้อต่อความสะดวกในการนำกระบอกไปล้าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานระหว่างการเดินทาง ใช้งานระหว่างนั่งทำงานในออฟฟิศ ดังนั้นคำแนะนำพื้นฐานจึงเป็นการล้างทำความสะอาดกระบอกน้ำอย่างน้อยวันละครั้ง โดยอาจเป็นตอนเย็นหลังใช้งานเสร็จ หรือตอนเช้าก่อนการพกพาไปใช้งาน

ล้างด้วยน้ำอุ่น/น้ำยาล้างจาน/ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนม หนึ่งในความเชื่อผิดๆ ในการทำความสะอาดกระบอกน้ำที่พกพาไว้ใช้งานส่วนตัวก็คือ ความเชื่อที่ว่าล้างด้วยน้ำเปล่าก็เพียงพอแล้ว ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ได้มีการใช้งานร่วมกับผู้อื่น จึงไม่มีความเสี่ยงเรื่องของสิ่งสกปรก หรือเชื้อโรคใดๆ มากนัก แต่ในความเป็นจริงการใช้งานกระบอกน้ำเพื่อบรรจุเครื่องดื่มใดๆ ล้วนมีความเสี่ยงต่อการปะปนเชื้อโรคได้ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคที่อาจตกค้างอยู่กับเครื่องดื่มที่เราดื่มหมดแล้ว แต่มีคราบตะกอนของส่วนผสมเครื่องดื่มนั้นๆ ติดสะสมอยู่ภายในตัวกระบอก เชื้อโรคจากมือเราที่อาจไปจับสิ่งสกปรกใดๆ มาและเผลอไปจับใช้งานกระบอกน้ำต่อ ดังนั้นในการล้างทำความสะอาดจึงควรใช้ตัวช่วยที่มีสรรพคุณช่วยให้เชื้อโรค แบคทีเรียต่างๆตายได้ เช่น น้ำอุ่น ซึ่งอุณหภูมิที่สูงพอนั้นจะสามารถช่วยขจัดเชื้อโรคหลายๆ ตัวได้ น้ำยาล้างจาน ผลิตภัณฑ์ล้างขวดนมที่มีสารเคมีช่วยขจัดสิ่งสกปรกและเชื้อโรคได้ตามมาตรฐาน

ทำความสะอาดฝากระบอก สิ่งนึงที่หลายคนมักหลงลืมไป แต่เป็นสิ่งที่ส่งผลต่อสุขอนามัยเช่นกันก็คือ การทำความสะอาดฝากระบอก โดยเราควรทำความสะอาดฝาเป็นประจำเช่นเดียวกับตัวกระบอกน้ำ แม้ว่าฝากระบอกจะไม่ใช่ส่วนที่ใช้บรรจุเครื่องดื่มโดยตรง เพราะในการใช้งานจริงตัวฝาถือว่าเสี่ยงต่อการสะสมสิ่งสกปรกและเชื้อโรคมากกว่าตัวกระบอกด้วยซ้ำ เนื่องจากฝากระบอกน้ำส่วนใหญ่ถูกดีไซน์มาให้เป็นเกลียวมีร่องเล็กๆที่สิ่งสกปรกเข้าไปสะสมอยู่ได้ง่าย อีกทั้งสิ่งสกปรกและเชื้อโรคในสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็อาจตกหล่น สะสมอยู่ที่ฝาด้านนอกได้เช่นกัน

ในยุคปัจจุบันนั้น เป็นยุคที่ไม่ว่าใครๆก็ตาม หันมารณรงค์และใส่ใจเรื่องของการรักษาสิ่งแวดล้อม สิ่งหนึ่งที่เรามักจะทำกัน คือการพกกระบอกน้ำ หรือแก้วน้ำส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำสแตนเลส หรือกระบอกน้ำพลาสติก โดยเฉพาะแบบที่เก็บความร้อนและความเย็นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นกระบอกน้ำเก็บความเย็น สิ่งนี้เป็นสิ่งที่หลายคนพกพาไปไหนมาไหน และพกเอาติดตัวไว้อยู่เสมอ สิ่งนี้มีประโยชน์กับเราเป็นอย่างมาก ทำให้เราสามารถใส่เครื่องดื่ม และดื่มน้ำได้ไม่ว่าจะที่ไหนหรือเวลาไหนก็ตาม แต่ถึงอย่างนั้นกระบอกน้ำเก็บความเย็นเหล่านี้ การที่เราจะเลือกหามาใช้งานนั้น เราควรเลือกที่แบบคุณภาพ ได้มาตรฐานการผลิตที่ดี เนื่องจากว่าหากเราเลือกในแบบที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่มีคุณภาพ แทนที่มันจะเป็นประโยชน์กับเรา มันกลับอาจเป็นโทษต่อร่างกายของเราบางประการก็ได้

ดังนั้นในวันนี้ เราจะชวนคุณมาคุยกันในเรื่องของกระบอกน้ำเก็บความเย็น ว่าหากเราใช้สิ่งนี้อย่างผิดวิธี หรือหากเราซื้อในแบบที่ไม่ได้มาตรฐาน แทนที่เราจะสามารถใช้งานสิ่งนี้ได้อย่างเป็นประโยชน์ มันกลับมีอันตรายบางอย่างเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา อันตรายที่ว่าเหล่านี้มีดังนี้

การใส่เครื่องดื่มที่มีโปรตีน

กระบอกน้ำเหล่านี้ เราสามารถที่จะนำมาใส่เครื่องดื่มได้สารพัดประโยชน์ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม แต่เครื่องดื่มบางประเภท การนำมาใช้งานที่มีระยะเวลานานจนเกินไป ก็อาจจะส่งผลเสียบางประการได้ ยกตัวอย่างที่เห็นอย่างเด่นชัดที่สุดเลยก็คือ การใส่เครื่องดื่มประเภทโปรตีน อย่างเช่นพวกนม นมถั่วเหลือง หรือน้ำเต้าหู้เป็นต้น หรืออาจเป็นโปรตีนเวย์ เหล่านี้สามารถนำมาใส่กระบอกน้ำได้เช่นเดียวกัน แต่ขอแนะนำเลยก็คือ ควรจะดื่มให้หมดในทันที มิเช่นนั้นอาจเกิดอันตรายบางอย่างได้ หรือทางที่ดีเลือกใช้เป็นแก้วเชคแทน

หากเราเก็บเครื่องดื่มเหล่านี้ไว้ในกระบอกน้ำของเรานานจนเกินไป อาจทำให้เชื้อจุลินทรีย์บางอย่างเจริญเติบโตขึ้น และถึงเราจะล้างทำความสะอาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ล้างไม่สะอาด ยังคงมีค่าโปรตีนบางอย่างก็อยู่ อาจก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นได้ และอาจเกิดเชื้อโรค และยิ่งหากเป็นกระบอกน้ำที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจจะเกิดสารตะกั่วหลุดรอดออกมาได้ ซึ่งทำให้เกิดโรคร้ายบางอย่างกับเราได้

การใช้งานเป็นระยะเวลาที่นานจนเกินไป

ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นไหนก็ตาม ล้วนแล้วแต่มีอายุการใช้งานด้วยกันทั้งนั้น กระบอกน้ำนี้ก็เช่นเดียวกัน ถึงจะสามารถใช้งานได้นานในกรณีที่เป็นกระบอกน้ำที่ได้คุณภาพ แต่ก็ยังมีระยะเวลาที่จำกัด บางคนใช้อันเดิมเป็นเวลาหลายปี แบบนี้ก็ไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไหร่นัก ทางที่ดีที่สุด เรายอมเสียเงินดีกว่า แล้วซื้ออันใหม่ไปเลย เพราะหากเราทนใช้อันเก่าต่อไป กับการที่ใส่เครื่องดื่มหลากหลายเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดสารบางอย่างขึ้น และเข้ามาปะปนในเครื่องดื่มของเรา ซึ่งหากเป็นแบบนั้นก็ไม่น่าจะดีต่อสุขภาพของตัวผู้ใช้งานเท่าไหร่ อย่าเสียดายเงินเพียงเล็กน้อย เพื่อให้สุขภาพของเราเสียในระยะยาวน่าจะดีกว่า

การไม่ล้างทำความสะอาดเลย

ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ที่เราใส่เครื่องดื่มดื่ม หรือเราใส่อาหาร เราจำเป็นที่จะต้องล้างทำความสะอาดอยู่เสมอด้วยกันทั้งนั้น อุปกรณ์ใส่เครื่องดื่มชนิดนี้ เป็นสิ่งที่ผู้คนมักจะละเลย และไม่หยิบมันมาทำความสะอาดมากเท่าไหร่นัก ข้อแนะนำที่สำคัญของการใช้อุปกรณ์นี้ก็คือ เราควรที่จะหยิบมันมาทำความสะอาดบ้าง สำหรับบางคนที่อาจไม่ได้ทำความสะอาดอยู่เสมอ การนำมันมาทำความสะอาดบ้าง ถือเป็นสิ่งที่ควรทำ หรือบางทีอาจจะต้องทำเลย อาจจะมีสิ่งสกปรกเกิดขึ้นได้ ระหว่างที่เราใช้งานมาอย่างยาวนาน ดังนั้นน้ำมันมาล้างบ้างก็ดี

อาจจะดูเป็นสินค้าธรรมดาๆ ที่ไม่มีความซับซ้อนเรื่องของกระบวนการออกแบบและผลิตสักเท่าไหร่ สำหรับสินค้ายอดนิยมในแวดวงการตลาดและของพรีเมี่ยมอย่างกระบอกน้ำ แต่ในความเป็นจริงนั้นต้องบอกว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะคิดหาไอเดียออกแบบกระบอกน้ำสักใบให้ออกมาสวยงามโดดเด่น แตกต่างจากคู่แข่ง และทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกประทับใจเมื่อในการหยิบจับใช้งานตัวสินค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการออกแบบกระบอกน้ำเพื่อใช้งานเป็นของพรีเมี่ยมสำหรับกิจกรรมทางการตลาดต่างๆ เช่น กระบอกน้ำสแตนเลส กระบอกน้ำพลาสติก หรือ แก้วน้ำเก็บความเย็น ซึ่งจำเป็นต้องพยายามทำให้ลูกค้าเป้าหมายที่ได้รับสินค้าไปรู้สึกประทับใจในคุณภาพสินค้า และสัมผัสได้ถึงความแตกต่างจากกระบอกน้ำพรีเมี่ยมทั่วไปจากบริษัท หรือแบรนด์คู่แข่ง ในบทความนี้จึงมาแนะนำไอเดียออกแบบกระบอกน้ำที่จะช่วยให้ได้สินค้าที่ออกมาแตกต่างจากคู่แข่ง ใช้งานสะดวก และสวยแมตช์กับเทรนด์ในปัจจุบัน

ออกแบบให้มีหูหิ้วที่ฝากระบอก ดีไซน์ฝากระบอกน้ำทั่วไปมักเป็นแบบฝาเกลียวหมุนปิดปกติแบบทรงกลม หรือทรงเหลี่ยม ซึ่งแน่นอนว่าถือเป็นดีไซน์มาตรฐานที่ไม่ได้ผิดแปลกอะไร แต่ดีไซน์ฝาปิดแบบมาตรฐานนี้มักจะตามมาด้วยปัญหาในการใช้งานอย่างนึง ซึ่งก็คือความไม่สะดวกระหว่างการถือพกพา โดยผู้บริโภค หรือผู้ใช้งานหลายคนหากต้องการความสะดวกในการพกพา หรือหิ้วกระบอกน้ำติดตัวก็มักจะเลือกซื้อถุงสวมกระบอกเพิ่มเติมเพื่อให้สามารถหิ้วกระบอกได้อย่างสะดวก โดยไม่ต้องจับถือที่ตัวแก้ว แต่ก็ยังมีอีกหนึ่งวิธีดีๆ ที่จะช่วยแก้ปัญหานี้ได้และทำให้ผู้ใช้งานสามารถพกพากระบอกน้ำติดตัวได้อย่างสะดวก นั่นก็คือการดีไซน์ให้ฝากระบอกมาพร้อมกับหูหิ้วนั่นเอง โดยอาจเป็นลักษณะของหูหิ้วพลาสติกที่เชื่อมต่อกับตัวฝาแบบมั่นคง หรือหูหิ้วเสริมวัสดุยาง หรือเชือกที่ยึดติดกับฝากระบอกอีกที แน่นอนว่าการดีไซน์ตัวสินค้าออกมาแบบนี้ย่อมทำให้ลูกค้าเป้าหมายที่ได้รับสินค้าไปสัมผัสได้ถึงความสะดวกในการใช้งาน และมีแนวโน้มที่จะรู้สึกประทับใจในแบรนด์ หรือองค์กรเราได้มากขึ้น

ออกแบบให้มีขนาดที่กะทัดรัด แม้ว่าในแง่ของประโยชน์ใช้งาน กระบอกน้ำจะมีไว้ใช้งานบรรจุน้ำ หรือเครื่องดื่มต่างๆ ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งบรรจุได้เยอะเท่าไหร่ก็เท่ากับตัวสินค้ามีประโยชน์ใช้งานมากเท่านั้น ทว่าในแง่ของการใช้งานจริงนั้น ความสะดวกในการพกพา หรือน้ำหนักที่ไม่มากเกินไปก็เป็นปัจจัยที่มีส่วนในการตัดสินใจใช้งานตัวสินค้าเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่เน้นความคล่องตัวในการใช้ชีวิต และทำกิจกรรมต่างๆ ระหว่าง การออกแบบให้ตัวสินค้าออกมามีขนาดกะทัดรัดจึงมีแนวโน้มที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะนำสินค้าไปใช้งานจริงมากกว่าสินค้าที่มีขนาดใหญ่ โดยขนาดความจุแนะนำอยู่ที่ประมาณ 0.6 – 0.8 ลิตร

ออกแบบให้ตัวกระบอกสามารถแยกชิ้นส่วนสำหรับใช้เป็นแก้วดื่มได้ อีกหนึ่งไอเดียดีไซน์แนะนำที่จะทำให้ได้กระบอกน้ำสักใบที่สวยเก๋ และใช้งานสะดวกตอบโจทย์ผู้บริโภคเจนฯใหม่ในปี 2023 นี้ก็คือ ดีไซน์ให้ตัวกระบอกสามารถแยกชิ้นส่วนเพื่อใช้งานเป็นแก้วดื่มได้ต่างหากนั่นเอง โดยอาจจะใช้เป็นส่วนฝาที่ดีไซน์ให้มีขนาดใหญ่กว่าฝาปิดทั่วไป มีหูหิ้วติดที่ด้านข้างฝา เมื่อหมุนเปิดออกก็สามารถใช้แทนแก้วสำหรับรินน้ำดื่มได้ทันที หรืออาจเป็นการดีไซน์ให้ตัวกระบอกแบ่งออกเป็นสองชิ้นและหมุนประกอบกันเพื่อใช้งานเป็นกระบอกน้ำ ถอดแยกจากการเพื่อใช้งานเป็นแก้ว ดีไซน์สินค้าแบบฟิวชั่นนี้ถือเป็นหนึ่งในไอเดียการดีไซน์สินค้ายอดฮิตที่ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคยุคใหม่ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

กระบอกน้ำไม่ว่าจะเป็นกระบอกน้ำพลาสติก หรือกระบอกน้ำสแตนเลส ถือเป็นหนึ่งในไอเทมสามัญประจำตัวของใครหลายคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเทรนด์ดูแลสุขภาพในปัจจุบันที่ทำให้หลายคนให้ความสำคัญกับการจิบเครื่องดื่มเมนูโปรดเพื่อเพิ่มความรู้สึกเฟรชให้ร่างกายตลอดทั้งวัน ก็ยิ่งทำให้กระบอกน้ำสแตนเลสที่มีคุณสมบัติเก็บรักษาอุณหภูมิร้อน-เย็นหรือแก้วน้ำเก็บความเย็นได้มีความสำคัญมากขึ้นตามไปด้วย แต่ทว่าการเลือกซื้อเลือกหากระบอกน้ำจากแบรนด์ต่างๆ ในท้องตลาดทั่วไปมาใช้งานก็มักจะตามมาด้วยปัญหาจุกจิกมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือปัญหาความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิที่ไม่คงที่ หรือคุณภาพไม่เหมือนกับตอนที่เพิ่งซื้อมาใหม่ๆ เมื่อผ่านการใช้งานมาสักระยะนึง โดยบางคนอาจเจอปัญหาเมื่อผ่านการใช้งานมาแล้ว 1 เดือน บางคนอาจเจอปัญหาเมื่อใช้งานมาแล้ว 2-3 เดือน และแน่นอนว่าย่อมตามมาด้วยความสงสัยว่าปัญหาดังกล่าวเกิดจากอะไร และควรแก้ไข หรือเลือกซื้อใบใหม่อย่างไรเพื่อไม่ให้เจอกับปัญหาเดิมๆ ในบทความนี้จึงได้นำเอาสาเหตุที่พบได้บ่อยของปัญหาดังกล่าวมาบอกกล่าวกัน เพื่อให้หลายคนได้คลายสงสัยและได้ใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อเลือกหากระบอกน้ำใบใหม่ที่คุณภาพตรงโจทย์ความต้องการมากขึ้น
เกิดรูรั่วที่ชั้นวัสดุภายใน โดยทั่วไปแล้วกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิร้อน-เย็นจากหลายแบรนด์ในปัจจุบันจะใช้เทคนิคการผลิตแบบสร้างพื้นที่สุญญากาศภายในชั้นวัสดุของตัวกระบอก หรือก็คือพื้นที่ว่างที่ไม่มีสสาร หรืออากาศอยู่โดยการประกบวัสดุสองชิ้นเข้าด้วยกัน เพื่อป้องกันการถ่ายเทอุณหภูมิระหว่างอุณหภูมิภายในกระบอกน้ำกับอุณหภูมิภายนอก ทำให้อุณหภูมิของเครื่องดื่มที่บรรจุลงไปในกระบอกสามารถคงที่อยู่ได้เป็นระยะเวลานาน แต่ทว่าผู้ผลิตกระบอกน้ำแต่ละราย แต่ละยี่ห้อนั้นเลือกใช้เกรดวัสดุที่แตกต่างกันออกไป และการเลือกใช้วัสดุ หรืออลูมิเนียมเกรดต่ำก็จะนำมาซึ่งปัญหาวัสดุเสื่อมสภาพภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว จนเกิดเป็นรูรั่วที่ชั้นวัสดุสุญญากาศ หรือทำให้พื้นที่สุญญากาศดังกล่าวนั้นหายไป กล่าวคือหากกระบอกน้ำใบนั้นๆ ที่เราซื้อมาใช้ถูกผลิตด้วยอลูมิเนียมเกรดต่ำ เมื่อใช้งานไปสักพัก ความร้อนจัด หรือเย็นของเครื่องดื่มที่เราบรรจุลงไปจะส่งผลให้วัสดุภายในเกิดการหดตัวได้ จนพื้นที่ที่ถูกซีลไว้ด้วยวัสดุสองด้านนั้นเกิดเป็นรูรั่ว และเมื่อไม่มีพื้นที่สุญญากาศแล้วอุณหภูมิภายในกระบอกและอุณหภูมิภายนอกก็ถ่ายเทหากันได้ เราจึงจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจนว่าความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิของกระบอกใบนั้นๆเปลี่ยนไป แม้ว่าภายนอกตัวกระบอกจะไม่มีการชำรุด เสียหายใดๆ และสามารถเทน้ำ หรือเครื่องดื่มใดๆ บรรจุไว้ได้ปกติโดยไม่รั่วไหลก็ตาม
กระบอกน้ำตกหล่นจนมีรอยบุบ/รอยยุบ อีกสาเหตุที่พบได้บ่อยก็คือ การทำกระบอกน้ำตกหล่นบ่อยๆ จนวัสดุภายนอกเกิดการบุบ ซึ่งแม้ว่าอาการบุบ ยุบตัวของวัสดุภายนอกจากการกระแทกจะไม่ได้ทำลายความสามารถในการบรรจุน้ำ กล่าวคือเรายังสามารถเทเครื่องดื่มใดๆ ใส่กระบอกเก็บไว้ได้ แต่ด้วยความที่วัสดุบริเวณที่บุบนั้นเข้าไปสัมผัสกับวัสดุชั้นในอีกด้านนั้น จะทำให้พื้นที่สุญญากาศสูญหายไปด้วย จึงตามมาด้วยอิสระในการถ่ายเทอุณหภูมินั่นเอง ดังนั้นจึงสรุปวิธีป้องกันปัญหาการใช้งานกระบอกน้ำเก็บอุณหภูมิร้อน-เย็น ได้ว่า ควรเริ่มต้นจากการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีฟีดแบ็กดี ไว้วางใจในเกรดวัสดุที่ใช้ในการผลิตและมาตรฐานการผลิตได้ โดยอาจใช้จุดสังเกตง่ายๆ อย่างเรื่องราคา เป็นตัวคัดกรอง(ราคาที่ถูกเกินไป เช่น 100-300 บาท มักจะมาพร้อมกับวัสดุเกรดต่ำ) และประการที่สองคือระมัดระวังไม่ทำกระบอกน้ำตกหล่นบ่อยๆ แม้ว่าจะมั่นใจในความแข็งแรงทนทานของวัสดุได้แล้วก็ตาม

เป็นที่ทราบกันดีว่าปัจจุบันกระบอกน้ำประเภทที่สามารถเก็บรักษาอุณหภูมิร้อน เย็นได้ถือเป็นหนึ่งในไอเทมกิ๊ฟเซ็ทกระบอกน้ำที่หลายคนจำเป็นต้องพกติดตัว โดยเฉพาะหนุ่มสาวออฟฟิศ คนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจการดูแลสุขภาพกันมากขึ้น ให้ความสำคัญกับการจิบเครื่องดื่มระหว่างวันมากขึ้น อย่างไรก็ตามการมองหากระบอกน้ำหรือแก้วเก็บความเย็น-ร้อน กระบอกน้ำสแตนเลส คุณภาพดีสักใบนั้นถือว่าไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยเฉพาะในยุคที่ผู้จำหน่าย แบรนด์ต่างๆทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่แข่งกันทำผลิตภัณฑ์ออกมาให้เราเลือกหาเลือกเปรียบเทียบกันเยอะแยะมากมายทั้งช่องทางออนไลน์ และออฟไลน์อย่างในปัจจุบัน ซึ่งหากมีงบมากหน่อยก็อาจช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นหน่อย เพราะสามารถมองตัวเลือกแบรนด์ดังๆ ที่สามารถไว้วางใจเรื่องคุณภาพได้ระดับนึง เช่น แบรนด์ Yeti, Stanley, Zojirushi เป็นต้น แต่สำหรับหลายคนที่อาจรู้สึกว่าไม่อยากสิ้นเปลืองกับงบในการซื้อกระบอกน้ำสักใบมากเกินไป กล่าวคืออาจมองว่าเรทราคา 1,500-2,000+ บาท สำหรับไอเทมชิ้นนี้นั้นสูงเกินไป ก็ย่อมต้องมองหาตัวเลือกอื่นๆ หรือแบรนด์อื่นๆ ที่มีเรทราคาจำหน่ายต่ำกว่า ในบทความนี้จึงจะมาแนะนำตัวเลือกแบรนด์กระบอกน้ำในเรทราคาย่อมเยาที่ได้รับความนิยมในไทยมาบอกกล่าวได้ทราบเพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อเลือกหากัน
Seagull แบรนด์แรกที่เลือกมาแนะนำกันถือว่าเป็นแบรนด์ที่คุ้นหูคนไทยกันเป็นอย่างดี เรียกว่าเป็นแบรนด์ที่อยู่คู่กับแวดวงภาชนะ เครื่องครัวต่างๆ ในไทยเรามานานแล้ว ในแผนกเครื่องครัวตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ ก็จะมีผลิตภัณฑ์ของ Seagull วางจำหน่ายอยู่แล้ว ซึ่งหากใครมีประสบการณ์เดินช้อปเครื่องครัวก็น่าจะเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว เช่นเดียวกันกับกระบอกน้ำ เก็บอุณหภูมิร้อน-เย็น ทาง Seagull เองก็มีผลิตออกมาวางจำหน่ายในหลากหลายรุ่นด้วยกัน ข้อดีอยู่ที่รูปทรง ดีไซน์ที่ดูสวยเรียบทันสมัย ตัวกระบอกแคบ สามารถพกพา หรือจับใช้งานมือเดียวได้สะดวก มีราคาเริ่มต้นที่ประมาณสี่ร้อยบาทเท่านั้น
Zebra อีกหนึ่งแบรนด์ที่หลายคนคุ้นหูกันดีเช่นกัน และเป็นแบรนด์ประจำแผนกภาชนะ เครื่องครัวของคนไทยเช่นเดียวกับ Seagull ก็คือแบรนด์ซีบร้านั่นเอง โดยทั้งแบรนด์ Seagull และ Zebra ถือว่าเป็นแบรนด์ที่มีผลิตภัณฑ์ประเภทภาชนะ และเครื่องครัววางจำหน่ายครอบคลุมแทบทุกชนิด ซึ่งกระบอกน้ำเก็บรักษาอุณหภูมิร้อน-เย็นก็เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ทาง Zebra พัฒนาออกมาวางจำหน่าย โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณสามร้อยกว่าบาทเท่านั้น ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ทางเลือกยอดฮิตสำหรับผู้ที่มองหากระบอกน้ำสักใบในงบประหยัด ส่วนจุดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์นั้นเป็นเรื่องของดีไซน์ที่ค่อนข้างดูทันสมัย มีบางรุ่นที่เลือกใช้สีสดใสแบบพาสเทลเป็นสีหลักของตัวกระบอกน้ำ ทำให้ค่อนข้างถูกใจหนุ่มสาวออฟฟิศ คนรุ่นใหม่สายมินิมอล แต่รอบวงตัวกระบอกค่อนข้างกว้าง หากเปรียบเทียบกับรูปทรงของ Seagull ก็ต้องบอกว่าแบรนด์ Zebra อาจจะจับใช้งานมือเดียวได้ไม่ถนัดเท่ากระบอกน้ำทรงแคบของ Seagull
Tyeso สำหรับคนที่ชอบรูปทรงคลาสสิคของกระบอกน้ำแบรนด์ Yeti หรือ Stanley แต่มีงบจำกัด แบรนด์อย่าง Tyeso ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เพราะรูปทรงดีไซน์ผลิตภัณฑ์ถือว่ามีความละหม้ายคล้ายคลึงกับสองแบรนด์ดังดังกล่าว แต่วางจำหน่ายในเรทราคาย่อมเยา โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ใบละประมาณ 250 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ราคาถูกสุดในตลาดก็ว่าได้ แต่คุณภาพที่ได้ถือว่าคุ้มค่าทีเดียว เพราะตัวกระบอกน้ำทำจากวัสดุสแตนเลสร้อยเปอร์เซ็นต์ มีสีสันให้เลือกหลากหลายสี อีกทั้งยังมีความสามารถในการเก็บรักษาอุณหภูมิเย็นได้นานกว่า 6 ชั่วโมง